
ธนาคารกลางอิสราเอลประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.5% ซึ่งเป็นการคงดอกเบี้ยติดต่อกันครั้งที่ 11 และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
แถลงการณ์ของธนาคารกลางอิสราเอลซึ่งมีการเผยแพร่ในวันจันทร์ (26 พ.ค.) ระบุว่า ภาวะเงินเฟ้อสูงยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างความกังวลให้กับธนาคารกลาง โดยธนาคารกลางคาดการณ์ว่ามีความเสี่ยงหลายปัจจัยที่จะทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งรวมถึงสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงและผลกระทบที่จะมีต่อเศรษฐกิจ, ภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน, สถานการณ์การค้าโลกที่ย่ำแย่ลง และความผันผวนของสกุลเงินเชเคล ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
อัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย.ของอิสราเอลพุ่งขึ้น 3.6% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งปรับตัวขึ้นมากกว่าในเดือนมี.ค.ที่เพิ่มขึ้น 3.6% และเป็นการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 8 เดือน นอกจากนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อดังกล่าวยังอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายที่ธนาคารกลางกำหนดไว้ในกรอบ 1% – 3%
ส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอิสราเอลขยายตัว 3.4% ในไตรมาส 1/2568 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวที่เร็วขึ้นจากระดับ 1.9% ในไตรมาส 4/2567 โดยได้รับแรงหนุนจากการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรที่ปรับตัวขึ้น 8.7% และการส่งออกที่เพิ่มขึ้น 6.2% ขณะที่การก่อสร้างขยายตัว 44.8% แต่สำนักงานสถิติอิสราเอลระบุว่า การเพิ่มขึ้นดังกล่าวยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ค. 68)
Tags: ธนาคารกลางอิสราเอล, อัตราดอกเบี้ยนโยบาย, อิสราเอล, เศรษฐกิจอิสราเอล