อิสราเอลใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทั่วประเทศอิหร่านติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันอาทิตย์ (15 มิ.ย.) และขู่ว่าจะใช้กำลังที่รุนแรงยิ่งขึ้น เนื่องจากขีปนาวุธบางส่วนของอิหร่านสามารถทะลุผ่านระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลเข้าไปโจมตีอาคารต่าง ๆ ในใจกลางอิสราเอลได้
กองทัพอิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีโดยระบุว่าเพื่อป้องกันไม่ให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โดยการโจมตีก่อให้เกิดการระเบิดในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่านในช่วงเที่ยงวันของวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น และอีกครั้งในเวลาประมาณ 15.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น จากนั้นอิสราเอลได้เปิดเสียงไซเรนในเวลาประมาณ 16.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเตือนประชาชนถึงการโจมตีในเวลากลางวันครั้งแรกของอิหร่านนับตั้งแต่การสู้รบเริ่มขึ้น และไซเรนดังขึ้นอีกครั้งในเวลาประมาณ 20.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น
อิหร่านเปิดเผยว่า อิสราเอลได้โจมตีโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งในอิหร่าน และมีความเป็นไปได้ที่จะทำการโจมตีอุตสาหกรรมพลังงานของอิหร่านเป็นวงกว้างขวางมากขึ้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันโลก นอกจากนี้ การที่กองทัพอิสราเอลได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียเตือนให้ประชาชนของอิหร่านรีบอพยพออกจากโรงงานผลิตอาวุธ ยังบ่งชี้ถึงการขยายขอบเขตการโจมตี
ข้อมูลจากกลุ่มสิทธิมนุษยชน (Human Rights Activists) ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตันและติดตามสถานการณ์ในอิหร่านมาอย่างยาวนาน ระบุว่า การโจมตีของอิสราเอลในครั้งนี้ได้คร่าชีวิตผู้คนในอิหร่านไปแล้วอย่างน้อย 406 คน และบาดเจ็บอีก 654 คน ขณะที่รัฐบาลอิหร่านยังไม่ได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตโดยรวม
ทางด้านอิสราเอลเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 14 คนในอิสราเอลนับตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ (13 มิ.ย.) และบาดเจ็บ 390 คน พร้อมกับเปิดเผยว่าอิหร่านได้ยิงขีปนาวุธมากกว่า 270 ลูก โดย 22 ลูกสามารถทะลุผ่านระบบป้องกันภัยทางอากาศหลายชั้นที่ซับซ้อนของอิสราเอลได้ ขณะที่สนามบินนานาชาติหลักและน่านฟ้าของอิสราเอลยังคงปิดทำการเป็นวันที่สาม
การสู้รบทางอากาศระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่ล่วงเข้าสู่วันที่ 3 บ่งชี้ถึงความขัดแย้งที่ยืดเยื้อ หลังจากอิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่านอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งมุ่งเป้าไปที่โครงการนิวเคลียร์และฐานทัพทหารของอิหร่าน และได้สังหารนายพลระดับสูงและนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์หลายคน โดยที่ทั้งสองฝ่ายยังไม่มีท่าทีว่าจะยอมถอย
ทั้งนี้ อับบาส อารักชี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านกล่าวว่า หากอิสราเอลยุติการโจมตีอิหร่าน การตอบโต้ของอิหร่านก็จะหยุดลงเช่นกัน ขณะที่ประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเคียนของอิหร่านได้วิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯ ที่สนับสนุนอิสราเอล และกล่าวว่าหากการกระทำที่เป็นปรปักษ์ของอิสราเอลยังคงดำเนินต่อไป การตอบโต้ของอิหร่านก็จะรุนแรงยิ่งขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มิ.ย. 68)
