นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ อยู่ที่ระดับ 32.51 บาท/ดอลลาร์ อ่อนจากปิด ตลาดเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 32.44 บาท/ดอลลาร์
เช้านี้เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวอ่อนค่า หลังดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า จากปัจจัยสงครามระหว่างอิสราเอลและ อิหร่าน โดยวันนี้ต้องติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลางต่อไป ขณะที่ระหว่างวัน ต้องติดตามสถานการณ์ราคาทองคำ และ fund flow ต่างชาติด้วย
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ไว้ที่ 32.35 – 32.65 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 144.22 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 144.06 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1535 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1520 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 32.436 บาท/ดอลลาร์
- นายกรัฐมนตรี จะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หารือผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย- กัมพูชา ขณะที่ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ว่าไทยแสดงความผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง ที่กัมพูชาไม่ยอมร่วมมือในการแก้ไข ปัญหาในการลดความตึงเครียดระหว่างกัน และกัมพูชายังเดินหน้านำเรื่องพื้นที่พิพาท 4 จุด (พื้นที่ช่องบก ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตา เมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย) ไปสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือ “ศาลโลก” ซึ่งสะท้อนว่า ฝ่ายกัมพูชา ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคีต่าง ๆ ที่มีอยู่ร่วมกันบนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี
- นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าวเมื่อคืนวันศุกร์ (13 มิ.ย.) ว่า กัมพูชาจะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งเป็นองค์กรตุลาการหลักขององค์การสหประชาชาติ (UN) ในวันอาทิตย์นี้ (15 มิ.ย.) เกี่ยวกับข้อพิพาทบริเวณชายแดน 4 จุด กับประเทศไทย ซึ่งได้แก่ 1. พื้นที่สามเหลี่ยมมรกต ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างกัมพูชา ลาว และไทย 2. ปราสาทตาเมือนธม 3. ปราสาทตา เมือนโต๊ต และ 4. ปราสาทตาควาย
- “พิชัย” เผย ไทยเตรียมเปิดเจรจาสหรัฐ แก้ปมภาษีตอบโต้ เชื่อได้บินคุยเร็วๆ นี้ โวได้รับการตอบรับที่ดีเรื่องข้อเสนอ จากนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐ แถมเจอ นายจามิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐถึง 2 ครั้ง ยืนยันถึงความพร้อมของไทย มาตรการภาษีการค้ากับสหรัฐ ที่มุ่งส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ระหว่างไทยกับสหรัฐ มั่นใจได้เจรจาหาทางออกกันชัวร์
- จับตาทองคำทดสอบแนวต้าน 53,400-53,500 บาท หลังอิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่าน ดันราคาน้ำมันตลาดโลกพุ่ง 14%
- บริษัท ทริสเรทติ้ง ประกาศ คงคาดการณ์การเติบโตของ GDP ไทยในปี 2568 ที่ระดับ 1.8% โดยได้รวมผลกระทบจาก ภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ไว้ในการวิเคราะห์ด้วย โดยในปี 2568 การลงทุนภาครัฐ คาดว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทาง เศรษฐกิจ รัฐบาลควรเร่งเบิกจ่ายงบประมาณสำหรับโครงการลงทุนที่อนุมัติไปแล้วเพื่อพยุงเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง
- ทั่วโลกระทึก! จับตาสงครามระอุ หลังอิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีย่านที่อยู่อาศัยตอนกลางอิสราเอล มีผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ-สูญ หายเพียบ เพื่อตอบโต้อิสราเอลเปิดฉากปฏิบัติการ “สิงโตผงาด” หรือ “ไรซิง ไลออน” เน้นทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร และ นิวเคลียร์ของอิหร่าน รวมทั้งสังหารทหารระดับสูง-นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์หลายสิบราย ด้านพลังงานไทยเกาะติดสถานการณ์ คาดราคา น้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์พุ่ง
- ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนบ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้นในเดือนมิ.ย. เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านการค้า
- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนพ. ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมิ.ย.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), ตัวเลขการเริ่มสร้าง บ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ค., ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, จำนวนผู้ขอรับ สวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีการผลิตเดือนมิ.ย.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มิ.ย. 68)
