ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าผันผวน วิตกตะวันออกกลางตึงเครียด-จับตาผลประชุมเฟด

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวนในวันนี้ (18 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่านจะทวีความรุนแรงมากขึ้น

  • ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 38,791.80 จุด เพิ่มขึ้น 255.06 จุด หรือ +0.66%
  • ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 23,698.65 จุด ลดลง 281.65 จุด หรือ -1.17% และ
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,380.47 จุด ลดลง 6.94 จุด หรือ -0.20%
  • ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.5% และดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 0.7%

สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านมีแนวโน้มทวีความรุนแรง หลังจากมีรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กำลังพิจารณาใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีอิหร่าน

นอกจากนี้ นักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันนี้ ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่สี่ แม้สถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังคงตึงเครียด

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเช้าวันนี้ กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเบื้องต้นว่า ญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 6.376 แสนล้านเยน (4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนพ.ค. เนื่องจากการส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ไปยังสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนัก โดยคาดว่าเป็นผลกระทบมาจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปรับขึ้นภาษีศุลกากร

ญี่ปุ่นขาดดุลการค้าติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง เนื่องจากยอดส่งออกโดยรวมปรับตัวลง 1.7% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 8.13 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 8 เดือน ขณะที่ยอดนำเข้าโดยรวมลดลง 7.7% แตะที่ระดับ 8.77 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเดือนที่สอง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มิ.ย. 68)