
ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงในวันนี้ (26 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนยังคงประเมินสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศว่าอิสราเอลและอิหร่านบรรลุข้อตกลงหยุดยิงแล้วก็ตาม
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 39,349.85 จุด เพิ่มขึ้น 407.78 จุด หรือ +1.05%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 24,357.56 จุด ลดลง 117.11 จุด หรือ -0.48% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,459.66 จุด เพิ่มขึ้น 3.68 จุด หรือ +0.11%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ร่วงลง 1.81% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.21%
นักลงทุนยังคงประเมินสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังจากปธน.ทรัมป์ระบุว่าข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่านยังคงมีผลบังคับใช้ นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ประกาศความสำเร็จในการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวกรองสหรัฐฯ ระบุว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ไม่สามารถทำลายขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยทำให้โครงการนิวเคลียร์ล่าช้าไปเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2568 และในวันศุกร์จะมีการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)
ทั้งนี้ ดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 มิ.ย. 68)