นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ในสภาวการณ์ทางการเมือง ณ ปัจจุบัน หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว รวมถึงการจัดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า เป็นการจัดสรรบนการต่อรองกันของกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมืองเพื่อความอยู่รอดทางการเมือง มากกว่าการจัดสรรบนพื้นฐานของความรู้ความสามารถ
โดยเห็นว่า สิ่งที่ประเทศและประชาชนต้องการมากที่สุดตอนนี้ คือรัฐบาลที่
1. มีเสถียรภาพและสมาธิในการทำงาน
2. มีความชอบธรรมทางการเมืองและได้รับความไว้วางใจจากประชาชน
3. มีคณะผู้บริหารที่มีศักยภาพในการรับมือกับความท้าทายเฉพาะหน้าของประเทศ เช่น การแก้ไขความขัดแย้งไทย-กัมพูชา และการเจรจากำแพงภาษีสหรัฐอเมริกา ฯลฯ
อย่างไรก็ดี ประเทศเราจะไม่สามารถมีรัฐบาลที่มีคุณสมบัติทั้งหมดข้างต้นนี้ได้ หากไม่มี “การเลือกตั้งใหม่” ซึ่งจะเป็นทางออกดีที่สุดในการฝ่าฟันวิกฤตครั้งนี้ โดยคืนอำนาจการตัดสินใจให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ
โดย ณ วันนี้ การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้ หากรักษาการนายกรัฐมนตรี ตอบรับข้อเสนอของพรรคประชาชน โดยตัดสินใจยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน แต่หากรัฐบาลยังคงเลือกที่จะไม่ยุบสภาด้วยตนเอง พรรคประชาชนจะใช้ทุกกลไกและทุกกระบวนการของสภา เพื่อทำให้เราได้เปลี่ยนรัฐบาลผ่านการเลือกตั้งครั้งใหม่โดยเร็วที่สุด
นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ท้ายที่สุด ตนและพรรคประชาชนยืนยันว่า พวกเราไม่เห็นด้วยกับกระบวนการนิติสงคราม ที่กำจัดผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกไปโดยวิถีทางที่ไม่เป็นประชาธิปไตย โดยเฉพาะการใช้ข้อหาเกี่ยวกับจริยธรรม ซึ่งไม่มีหลักเกณฑ์ตายตัว ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของตุลาการเท่านั้น
ดังนั้น อีกหนึ่งโจทย์ที่สำคัญยิ่งของรัฐบาลชุดถัดไปในการแก้ไขปัญหานี้ คือการล้มล้างผลพวงรัฐประหาร ลบล้างมรดก คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ฝังกลไกอยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน สร้างกลไกการตรวจสอบรัฐบาลโดยประชาชนมีส่วนร่วม
ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า การเมืองในระบอบประชาธิปไตยไม่มีทางตัน ยกเว้นว่ามีคนบางกลุ่มต้องการทำทุกวิถีทางให้ไปสู่ทางตัน เพื่อนำไปสู่การใช้กลไกอประชาธิปไตย ยึดอำนาจการตัดสินอนาคตประเทศไปจากมือประชาชน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ค. 68)
