สงคราม 12 วันกระทบหนัก ธุรกิจอิสราเอล 35% รายได้หายไปกว่าครึ่ง

ผลสำรวจของสำนักงานสถิติอิสราเอลที่เผยแพร่ในวันอังคาร (1 ก.ค.) เผยให้เห็นว่า ธุรกิจต่าง ๆ มากกว่า 1 ใน 3 ของอิสราเอลมีรายได้ลดลงอย่างมาก อันเนื่องมาจากความขัดแย้งเป็นเวลา 12 วันกับอิหร่าน

ผลสำรวจชื่อ “ผลกระทบของภาคธุรกิจในช่วงสงครามอิสราเอล-อิหร่าน” ที่อ้างอิงข้อมูลจากบริษัทผู้ตอบแบบสำรวจ 1,840 แห่ง ซึ่งเป็นตัวแทนธุรกิจ 66,936 แห่งและครอบคลุมตำแหน่งงาน 2.14 ล้านตำแหน่งในภาคเอกชนของอิสราเอล พบว่า ธุรกิจราว 35% มีรายได้ลดลงมากกว่า 50% ในเดือนมิ.ย. โดยมีเพียง 17% เท่านั้นที่ระบุว่า พวกเขาไม่คิดว่า จะมีผลกระทบต่อรายได้ในเดือนดังกล่าว

อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยมีธุรกิจราว 65% ที่คาดว่าจะสูญเสียรายได้อย่างหนัก ซึ่งสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับเพียง 11% ของธุรกิจในภาคเทคโนโลยีขั้นสูงและการเงิน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ความขัดแย้งดังกล่าวยังนำไปสู่การจ้างงานที่ลดลงอย่างมากในหลายธุรกิจ โดยในระหว่างการเก็บข้อมูลเมื่อวันที่ 23-25 มิ.ย. 35% ของบริษัทที่ตอบแบบสำรวจได้ปรับลดจำนวนพนักงานลง 80% ขณะที่บางธุรกิจระงับการดำเนินงาน

อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มยังคงได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยมีธุรกิจราว 70% ที่ดำเนินงานด้วยพนักงานน้อยกว่า 20% ของจำนวนปกติ สวนทางกับบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูงและการเงินที่มีเพียง 12% เท่านั้นที่ระบุว่า จำนวนพนักงานลดลง

ผลสำรวจระบุว่า ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของธุรกิจได้แก่ การปิดกิจการอันเนื่องมาจากมาตรการความปลอดภัย การขาดงานของพนักงาน ความต้องการที่ลดลง ปัญหาด้านการขนส่งและการจัดหาสินค้า และการปิดโรงเรียน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ค. 68)