เงินบาทเปิด 32.53 แกว่งกรอบแคบ จับตาภาษีสหรัฐ หลังยังเปิดให้เจรจา คาดกรอบวันนี้ 32.50-32.75

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.53 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็ง ค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.60 บาท/ดอลลาร์

เมื่อคืนเงินบาทอ่อนค่า แต่หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ร่อนจดหมายถึงประเทศต่าง ๆ รวมถึงไทย ชี้แจงอัตราภาษี ซึ่งไทยโดนเรียกเก็บที่อัตรา 36% เท่าเดิม โดยเริ่มบังคับใช้อัตราภาษีดังกล่าวในวันที่ 1 ส.ค. 68 ทำให้ตลาดมองว่าไทยยังคงมีช่องให้ เจรจาอยู่ ดังนั้น หลังจากที่ไทยรับรู้ข่าวส่งผลให้เงินบาทเช้านี้กลับมาแข็งค่า เช่นเดียวกับสกุลเงินส่วนใหญ่ภูมิภาค โดยเฉพาะประเทศที่ได้ รับจดหมายจากทรัมป์

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามช่วงนี้ ยังคงเป็นข่าวการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศอื่น ๆ รวมทั้งไทย

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ ไว้ที่ 32.50 – 32.75 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 146.15 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 145.45 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1730 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1720 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 32.558 บาท/ดอลลาร์
  • เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยถึงผลการออกมาตรการภาษี เพื่อสนับสนุนการลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ หรือไทยอีเอสจีเอ็กซ์ และสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนแอลทีเอฟไปไทยอีเอสจี เอ็กซ์ ว่า ในช่วงระยะเวลา 2 เดือนที่ดำเนินการ โดยสิ้นสุดมาตรการเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.68 พบว่า กองทุนไทยอีเอสจีเอ็กซ์ มีมูลค่า ทรัพย์สินสุทธิรวมประมาณ 32,168 ล้านบาท
  • “พิชัย” ยื่นข้อเสนอรอบที่ 2 ขยับเป้าสมดุลการค้าสหรัฐ เร็วขึ้นจาก 10 ปี เหลือ 7-8 ปี เปิดเสรีภาษีนำเข้า 0% ให้ สหรัฐจำนวนหนึ่ง เพิ่มนำเข้าก๊าซ-เครื่องบิน ชี้ไทยรับได้หากโดนภาษี 10-20% “พาณิชย์” จัดงบหมื่นล้านเยียวยาเกษตรกร-ผู้ผลิต ไทย “เอกชน” หวังรัฐบาลไทยไม่ยื่นข้อเสนอลดภาษี 0% ทุกรายการ ห่วงกระทบเกษตรกรไทย 
  • YLG ประเมินราคาทองคำในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 ยังคงมีความผันผวนอยู่ในระดับสูง จากปัจจัยสงครามการค้า, สถานะ ทางการคลังของสหรัฐ, การลดบทบาทของค่าเงินดอลลาร์ ทำให้ธนาคารกลางต่างๆ ยังคงเก็บทองคำเป็นทุนสำรอง ให้กรอบการลงทุน ระยะกลาง แนวรับ 3,121-3,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนแนวต้าน 3,438-3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ช่วงเงินบาทแข็งค่าถือเป็น จังหวะที่ดีในการเข้าซื้อทองคำไทย
  • ปธน.ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความบนทรูธ โซเชียลในวันจันทร์ โดยได้แชร์ภาพจดหมายซึ่งระบุถึงอัตราภาษีนำเข้าใหม่ที่ส่งถึงผู้นำ ของญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย คาซัคสถาน แอฟริกาใต้ ลาว และเมียนมา ต่อมาในวันเดียวกัน เขาได้แชร์ภาพจดหมายอีก 7 ฉบับที่ส่งถึง ผู้นำของประเทศไทย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ตูนิเซีย อินโดนีเซีย บังกลาเทศ เซอร์เบีย และกัมพูชา ปธน.ทรัมป์ยังประกาศอัตราภาษีสำหรับประเทศอื่น ๆ โดยประเทศไทยจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 36% ไม่เปลี่ยนแปลง จากระดับที่ปธน.ทรัมป์ได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ขณะที่สินค้านำเข้าจากมาเลเซีย คาซัคสถาน และตูนิเซีย ที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ จะถูก เรียกเก็บภาษีในอัตรา 25%
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (7 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตามาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ โดยล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรจาก ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเพียงเล็กน้อยในวันจันทร์ (7 ก.ค.) โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงิน ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
  • นักลงทุนจับตารายงานการประชุมวันที่ 17-18 มิ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะมีการเผยแพร่ในวันพุธ รวม ทั้งการแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงินของเฟด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ค. 68)