ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าบวก หลัง “ทรัมป์” ส่งสัญญาณเปิดโอกาสเจรจาภาษี

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ (8 ก.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าเขายังคงเปิดกว้างในการเจรจาการค้าเพิ่มเติม หลังจากที่ได้ประกาศภาษีศุลกากรอัตราใหม่กับประเทศต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่นและเกาหลีใต้

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 24,073.04 จุด เพิ่มขึ้น 185.21 จุด หรือ +0.78%, ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 39,711.29 จุด เพิ่มขึ้น 123.61 จุด หรือ +0.31% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,493.16 จุด เพิ่มขึ้น 20.04 จุด หรือ +0.58%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้น 1.19% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียลดลง 0.13% ก่อนที่ธนาคารกลางออสเตรเลียจะแถลงมติอัตราดอกเบี้ย

ปธน.ทรัมป์ประกาศในวันจันทร์ (7 ก.ค.) ว่า ประเทศต่าง ๆ อย่างน้อย 14 ประเทศจะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. โดยจะมีบางประเทศถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราที่สูงขึ้น สำหรับประเทศไทยจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 36% ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับที่ปธน.ทรัมป์ได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 2 เม.ย.

ปธน.ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความบนทรูธ โซเชียลในวันจันทร์ว่า สินค้าจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย คาซัคสถาน และตูนิเซีย ที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ จะต้องถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 25% ขณะที่สินค้าจากแอฟริกาใต้และบอสเนียจะถูกเก็บภาษีนำเข้า 30% และสินค้านำเข้าจากอินโดนีเซียจะถูกเรียกเก็บภาษี 32%

นอกจากนี้ จดหมายของปธน.ทรัมป์ระบุว่า บังกลาเทศและเซอร์เบียจะถูกเก็บภาษี 35% ขณะที่กัมพูชาและไทยจะถูกเรียกเก็บภาษี 36% ส่วนลาวและเมียนมาจะถูกเก็บภาษี 40%

อย่างไรก็ดี หลังจากประกาศอัตราภาษีที่สูงขึ้นกับหลายประเทศ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่าเขายังคงเปิดกว้างสำหรับการเจรจาเพิ่มเติม และเลื่อนการขึ้นภาษีออกไปอย่างน้อยจนถึงวันที่ 1 ส.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ค. 68)