ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าผันผวน ทองแดงลอนดอนร่วง กังวลผลกระทบภาษีทรัมป์

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวนในวันนี้ (9 ก.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันว่าสหรัฐฯ จะไม่ขยายเส้นตายในการบังคับใช้อัตราภาษีศุลกากรใหม่ที่กำหนดไว้ในวันที่ 1 ส.ค. ขณะที่ราคาทองแดงในตลาดลอนดอนร่วงลงหลังจากปธน.ทรัมป์ประกาศแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าทองแดงในอัตราสูงถึง 50%

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 39,677.42 จุด ลดลง 11.39 จุด หรือ -0.03%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 23,970.39 จุด ลดลง 177.68 จุด หรือ -0.74% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,507.69 จุด เพิ่มขึ้น 0.22 จุด หรือ +0.29%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้บวก 0.6% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.42%

ปธน.ทรัมป์โพสต์ข้อความบนทรูธโซเชียล (Truth Social) ในวันอังคาร (8 ก.ค.) โดยยืนยันว่า สหรัฐฯ จะไม่ขยายเส้นตายในการบังคับใช้อัตราภาษีศุลกากรใหม่ที่กำหนดไว้ในวันที่ 1 ส.ค.

ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า เขาจะประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้ายาในอัตราที่สูงมาก โดยอาจจะเป็น 200% ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งบริษัทผลิตยาจะมีเวลาหนึ่งปีครึ่งในการเริ่มต้นการผลิตในสหรัฐฯ ก่อนที่ภาษีนำเข้าดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ประกาศว่าเขาจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าทองแดงในอัตรา 50% และมีแผนที่จะเก็บภาษีในอัตราที่สูงมากในกลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะทางอื่น ๆ ตามมาอีกในเร็ว ๆ นี้

ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาทองแดงในตลาดโลหะลอนดอน (LME) ร่วงลงรุนแรงถึง 2.7% ในช่วงเปิดตลาดวันนี้ ก่อนที่จะลดช่วงลบในเวลาต่อมา โดยปรับตัวลง 0.7% แตะระดับ 9,722 ดอลลาร์/ตัน ในเวลา 10.34 น.ตามเวลาสิงคโปร์

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเช้าวันนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนราคาสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ร่วงลง 3.6% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 3.2%

ดัชนี PPI เดือนมิ.ย. ปรับตัวลงมากที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี และลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 33 เนื่องจากการทำสงครามราคาที่รุนแรงได้บั่นทอนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนซึ่งได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากอุปสงค์ผู้บริโภคที่อ่อนแอลง

ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ขยับขึ้น 0.1% ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลง 0.1% และฟื้นตัวหลังจากที่ดัชนีปรับตัวลงติดต่อกัน 4 เดือนก่อนหน้านั้น เนื่องจากมาตรการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ ของรัฐบาลและสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าที่ผ่อนคลายลงในระดับหนึ่งได้ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.ค. 68)