“อุ๊งอิ๊งค์” เปิดศึกโต้ “อนุทิน” ใส่สี! ปมจีนเบรคเที่ยวไทย ยันไม่ใช่ผุดกาสิโน แต่ไม่มั่นใจความปลอดภัย

(ภาพ: thaigov.go.th)

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม กล่าวถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาโพสต์ข้อความระบุถึงสาเหตุที่นักท่องเที่ยวจีนลดลงกว่า 90% มาจากการที่นายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร และได้ออกมาเตือนถึง 3 ครั้ง ว่า การที่นักท่องเที่ยวจีนไม่เที่ยวไทย เป็นเพราะเรื่องความปลอดภัย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกระทรวงมหาดไทย การนำมาเขียนแบบนี้ ดูเป็นการใส่สีเข้าไป ซึ่งความจริงแล้วเรื่องในต่างประเทศก็มีบันทึกอยู่

“ท่าน มท.1 เพิ่งออกไปได้ไม่นาน ลืมไปแล้วหรือว่า ที่นักท่องเที่ยวไม่เที่ยวไทย เป็นเพราะเรื่องความปลอดภัย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกระทรวงมหาดไทย” น.ส.แพทองธาร กล่าว

น.ส.แพทองธาร ชี้แจงต่อว่า ในระหว่างการเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ นายสี จิ้น ผิง ได้พูดถึงเรื่องการทำกาสิโนของไทย โดยได้อธิบายไปว่าโครงการในประเทศไทย เป็นเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ มีกาสิโนเพียงแค่ 10% เท่านั้น และเห็นว่า สิงคโปร์ทำแล้วประสบความสำเร็จ หรือแม้แต่มาเก๊าที่เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีน ก็ประสบผลสำเร็จเช่นกัน ซึ่งเมื่อประเทศที่อยู่ใกล้เคียงกัน หากมีเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ก็ต้องเป็นคู่แข่งกันอยู่แล้ว

“เมื่อเวลานำมาเล่าอีกรูปแบบหนึ่ง ก็ใส่สีตีไข่กันไป ซึ่งความจริงแล้ว เป็นแค่คำแนะนำ นายสีจิ้น ผิง พูด ก่อนที่จะอธิบายว่า ไม่ได้ชอบกาสิโน และประเทศไหนที่มีกาสิโน ก็จะดูว่าคนจีนที่ไปนั้นเป็นอย่างไร ไม่ได้บอกว่าจะปรับมาตรการ และยังได้ถามกับผู้นำจีนไปว่า มีการกำหนดเงื่อนไขอะไรในการเดินทางเข้าประเทศ ขณะเดียวกัน ประเทศจีนมีมาตรการเที่ยวภายในประเทศด้วย ซึ่งความจริงแล้วมีปัญหาหลายเรื่อง ทั้งเรื่องแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ การตัดน้ำ การตัดไฟ ตัดเน็ต เมื่อจะตัดก็ตัดยาก ต้องสั่งแล้วสั่งอีก ซึ่งแม้ว่านักท่องเที่ยวจีนไม่เข้ามาในช่วงโลซีซั่นที่ลดลง 30% แต่มีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปเข้ามาเติมเพิ่มมากขึ้น” น.ส.แพทองธาร ระบุ

ส่วนรัฐบาลจะถอนร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว หรือ รอสถานการณ์ดีขึ้นแล้วนำกลับมาเสนอใหม่นั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามมติของสภาผู้แทนราษฎร และขออนุญาตไม่ตอบ เนื่องจากไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี แต่ที่ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ เพราะขณะนั้นเป็นคนไปปฎิบัติหน้าที่เอง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.ค. 68)