ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) เตือนว่า จำนวนประชากรผู้สูงวัยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจส่งผลกระทบเชิงลึกต่อเสถียรภาพของระบบการเงินของประเทศ
RBNZ ระบุในรายงานเสถียรภาพทางการเงินฉบับล่าสุดว่า เมื่อประชาชนจำนวนมากเข้าสู่วัยเกษียณ พฤติกรรมด้านการออม การกู้ยืม และการลงทุนจะเปลี่ยนไป ซึ่งจะส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ย มูลค่าทรัพย์สิน และความต้องการผลิตภัณฑ์ทางการเงินโดยรวม
เคอร์รี วัตต์ ผู้อำนวยการฝ่ายประเมินระบบการเงินของ RBNZ กล่าวว่า ผลกระทบเหล่านี้มีแนวโน้มจะซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลา
RBNZ ชี้ว่า อัตราการออมของประเทศอาจเพิ่มขึ้นในระยะสั้น แต่จะลดลงเมื่อกลุ่มผู้สูงอายุเริ่มทยอยถอนสินทรัพย์ ซึ่งแนวโน้มนี้อาจทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลง ราคาทรัพย์สินปรับตัวสูงขึ้น และความต้องการสินเชื่อที่อยู่อาศัยลดลง โดยนักลงทุนสูงวัยจะหันไปถือสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำมากขึ้น
ส่วนสถาบันการเงินคาดว่าจะได้รับเงินฝากเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องเผชิญกับความต้องการสินเชื่อที่ลดลง ทำให้ธนาคารจำเป็นต้องขยายบริการไปยังผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ขณะเดียวกัน คาดว่าความต้องการประกันสุขภาพจะเพิ่มขึ้น ขณะที่การซื้อประกันชีวิตมีแนวโน้มลดลงตามอายุเฉลี่ยของประชากรที่สูงขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า RBNZ ยังเรียกร้องให้ภาคการเงินจำเป็นต้องเร่งปรับตัวเพื่อรักษาความยืดหยุ่นของระบบโการเงิน เนื่องจากสังคมสูงวัยอาจทำให้ประสิทธิภาพของนโยบายการเงินลดลง และเพิ่มภาระทางการคลังจากค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขและบำนาญในอนาคต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ค. 68)
