
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันพุธ (16 ก.ค.) ว่า รัฐบาลกลางจะยุติการให้ทุนสนับสนุนโครงการรถไฟความเร็วสูงของรัฐแคลิฟอร์เนีย
“จะไม่มีเงินของรัฐบาลกลางแม้แต่เพนนีเดียวไหลไปสู่โครงการหลอกลวงของนิวซัมอีกต่อไป” ทรัมป์โพสต์ข้อความในบัญชีโซเชียลมีเดียของตน “รถไฟตามที่เคยให้สัญญาไว้ยังไม่เกิดขึ้นจริง และจะไม่มีวันเกิดขึ้น”
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในวันเดียวกัน ฌอน ดัฟฟี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ ได้โพสต์ข้อความยืนยันการยุติเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาลกลางมูลค่าประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเรียกโครงการรถไฟความเร็วสูงนี้ว่าเป็น “ตัวอย่างที่ชัดเจนของความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล และอาจมีการทุจริตคอร์รัปชัน”
ด้านนิวซัมตอบโต้ผ่านโซเชียลมีเดียว่า “ขอไม่รับคำแนะนำจากคนที่ไม่อาจทำให้เครื่องบินบินอยู่บนฟ้าได้” ซึ่งเป็นการเหน็บแนมถึงปัญหาความปลอดภัยด้านการบินที่เกิดขึ้นในขณะที่ดัฟฟีดำรงตำแหน่งรมว.คมนาคม
การตัดสินใจของรัฐบาลกลางครั้งนี้สืบเนื่องมาจากรายงานเมื่อเดือนมิ.ย. ของกระทรวงคมนาคม ซึ่งชี้ถึงปัญหาการทำงานล่าช้า งบประมาณบานปลาย และปัญหาด้านการบริหารจัดการ
อย่างไรก็ตาม การรถไฟความเร็วสูงแคลิฟอร์เนีย (CHSRA) ได้ออกมาโต้แย้งว่า การประเมินของรัฐบาลกลางนั้นไม่ถูกต้อง พร้อมทั้งปกป้องความคืบหน้าของโครงการ โดยชี้แจงว่าโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น งานปรับพื้นที่และถมดินระยะทาง 35 กิโลเมตร และโครงสร้างสะพาน 11 แห่งในเซ็นทรัลแวลลีย์ได้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว และระบุว่านี่คือโครงการรถไฟความเร็วสูงอย่างแท้จริงโครงการแรกของประเทศ
โครงการดังกล่าว ซึ่งได้รับอนุมัติครั้งแรกในปี 2551 ต้องเผชิญกับความล่าช้าและต้นทุนที่บานปลายมาอย่างต่อเนื่อง แม้เจ้าหน้าที่ของรัฐอ้างว่าโครงการดำเนินไปตามแผน แต่นักการเมืองพรรครีพับลิกันบางส่วน โดยเฉพาะจากพื้นที่เซ็นทรัลแวลลีย์ ได้แสดงความไม่พอใจกับความล่าช้าของโครงการ และเมื่อต้นปีนี้ สมาชิกสภาคองเกรสจากพรรครีพับลิกันหลายคนได้เขียนจดหมายถึงรัฐบาลกลาง โดยเตือนว่างานก่อสร้างเสร็จสิ้นไปเพียงส่วนน้อยเท่านั้น และเรียกร้องให้ทบทวนการให้ทุนสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.ค. 68)