เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (17 ก.ค.) ว่า จะต่อสู้กับ “การกระทำอันมิชอบด้วยกฎหมาย” ของคณะบริหารภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่สั่งยกเลิกเงินอุดหนุนจากรัฐบาลกลางราว 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงของรัฐ
ในวันเดียวกัน การรถไฟความเร็วสูงแห่งแคลิฟอร์เนีย (CHSRA) ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลโครงการ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงสหรัฐฯ ในนครลอสแอนเจลิส เพื่อคัดค้านคำสั่งดังกล่าว โดยชี้ว่าเป็นการใช้อำนาจ “ตามอำเภอใจและปราศจากเหตุผล”
ผู้ว่าฯ นิวซัมกล่าวว่า การยุติเงินอุดหนุนครั้งนี้ไม่ต่างอะไรกับ “การแก้เผ็ดทางการเมืองอันไร้สาระ ซึ่งมีแรงจูงใจมาจากความเกลียดชังแคลิฟอร์เนียเป็นการส่วนตัวของประธานาธิบดีทรัมป์”
ข้อพิพาททางกฎหมายครั้งนี้จึงนับเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคที่เข้ามาขวางกั้นความพยายามตลอด 16 ปีที่จะเชื่อมมหานครลอสแอนเจลิสกับซานฟรานซิสโกด้วยรถไฟในเวลา 3 ชั่วโมง อันเป็นโครงการที่จะทำให้สหรัฐฯ มีรถไฟโดยสารที่เร็วที่สุดในประเทศ
ด้านฌอน ดัฟฟี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวอย่างมั่นใจว่า คณะทำงานของทรัมป์จะชนะคดีที่คัดค้านคำสั่งเพิกถอนนี้อย่างแน่นอน
“เราจำเป็นต้องถอดปลั๊ก” ดัฟฟีกล่าวกับผู้สื่อข่าว ต่อมา โฆษกของดัฟฟีได้กล่าวเสริมว่า “แล้วเจอกันที่ศาลนะ เกวิน”
การยกเลิกเงินทุนครั้งนี้นับเป็นการเผชิญหน้าครั้งล่าสุดระหว่างประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันกับผู้ว่าการรัฐจากพรรคเดโมแครต ผู้ซึ่งถูกมองว่าเป็นตัวเต็งคนสำคัญของพรรคในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปี 2571 ทั้งสองเคยปะทะคารมกันมาแล้วในหลายประเด็น ตั้งแต่นักกีฬาข้ามเพศและกฎเกณฑ์เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงการใช้กองกำลังพิทักษ์ชาติระหว่างการประท้วงในลอสแอนเจลิส หรือแม้กระทั่งเรื่องราคาไข่
เอียน เชาดรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของการรถไฟความเร็วสูงแห่งแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า “การยกเลิกเงินอุดหนุนโดยปราศจากเหตุอันควรนั้น ไม่ใช่แค่ผิด แต่ยังมิชอบด้วยกฎหมายอีกด้วย” เชาดรียืนยันว่า หน่วยงานได้ปฏิบัติตามภาระผูกพันทุกประการภายใต้ข้อตกลงที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย ซึ่งการตรวจสอบของรัฐบาลกลางเมื่อเดือนก.พ. 2568 ก็เพิ่งยืนยันเรื่องนี้
ในคำฟ้องระบุว่า โครงการรถไฟระบบนี้ซึ่งได้รับการอนุมัติให้ออกพันธบัตรครั้งแรกจากผู้ลงคะแนนเสียงในปี 2551 ได้ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างสำคัญในระบบรางไปแล้วกว่า 50 แห่ง และวางทางวิ่งรถไฟเสร็จแล้วเป็นระยะทาง 70 ไมล์ (113 กิโลเมตร) เชาดรียังชี้ว่าโครงการนี้สร้างงานแล้วประมาณ 15,500 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี ข้อโต้แย้งนี้ขัดกับรายงานของกรมการรถไฟแห่งชาติ (Federal Railroad Administration) ที่เผยแพร่เมื่อเดือนก่อนซึ่งระบุว่า โครงการประสบปัญหาความล่าช้ากว่ากำหนด งบประมาณบานปลาย และการคาดการณ์จำนวนผู้โดยสารที่น่าเคลือบแคลง ซึ่งทางการรถไฟแคลิฟอร์เนียโต้แย้งว่า ข้อสรุปดังกล่าว “เป็นการมองที่ผิดพลาด”
ถึงกระนั้น โครงการนี้ก็เผชิญอุปสรรคสำคัญมาโดยตลอด แต่เดิมเส้นทางซานฟรานซิสโก-ลอสแอนเจลิสควรจะแล้วเสร็จภายในปี 2563 ด้วยงบ 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ตอนนี้งบประมาณที่คาดการณ์ได้พุ่งสูงขึ้นเป็น 8.9 หมื่นล้าน ถึง 1.28 แสนล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ภายในปี 2576
อนึ่ง เมื่อครั้งทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยแรกเมื่อปี 2562 ก็เคยมีความพยายามเพิกถอนเงินอุดหนุน 929 ล้านดอลลาร์มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งทางรัฐแคลิฟอร์เนียก็ได้ยื่นฟ้องคัดค้าน จนนำไปสู่การยอมความในเดือนมิ.ย. 2564 ในสมัยประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ซึ่งมีผลให้ต้องมอบเงินอุดหนุนเต็มจำนวนตามเดิม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ค. 68)
