
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (22 ก.ค.) ท่ามกลางความหวังที่ลดน้อยลงเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าสงครามการค้าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และความต้องการใช้น้ำมัน
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 99 เซนต์ หรือ 1.47% ปิดที่ 66.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 62 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 68.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันปรับตัวลงท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และ EU หลังจากสื่อรายงานว่า ชาติสมาชิก EU จำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ กำลังพิจารณาใช้เครื่องมือต่อต้านการบีบบังคับ (Anti-Coercion Instrument) หรือ ACI เพื่อเป็นมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ หากการเจรจาทางการค้าไม่เป็นผลสำเร็จภายในวันที่ 1 ส.ค. และรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้าตามคำขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจาก EU ในอัตรา 30%
เครื่องมือ ACI ซึ่งถือเป็น “ไม้ตาย” ที่ EU มีไว้เพื่อป้องปรามนั้น มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปลายปี 2566 แต่ยังไม่เคยถูกนำมาใช้จริง โดยมาตรการนี้จะเปิดทางให้ EU สามารถโจมตีภาคส่วนสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้อย่างครอบคลุม
ขณะเดียวกันความหวังที่สหรัฐฯ และอินเดียจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ามีน้อยลง หลังจากมีรายงานว่าคณะผู้เจรจาการค้าของอินเดียได้เดินทางกลับกรุงนิวเดลีแล้ว หลังใช้เวลาเจรจาเกือบหนึ่งสัปดาห์ในวอชิงตัน และแทบไม่มีความหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถลงนามข้อตกลงการค้าได้ก่อนถึงเส้นตายวันที่ 1 ส.ค.
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง 577,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ก.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ในวันนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ค. 68)