ทักษิณ ชินวัตร (ภาพ: thaigov.go.th)
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาคดีตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 9 ก.ย.2568 หลังไต่สวนนัดสุดท้ายโดยวันนี้เป็นการไต่สวนพยานจำเลย คือนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ กล่าวว่า นายวิษณุถือเป็นพยานปากสำคัญ ซึ่งจะช่วยให้ความชัดเจนในหลายเรื่อง เพราะในขณะนั้นนายวิษณุ เป็นรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้น จึงรู้ข้อเท็จจริงกระบวนการทุกขั้นตอน
นายวิษณุ ให้การว่า ในการประชุมทั้ง 2 ครั้งกับปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หารือการรับตัวนายทักษิณจากสนามบินไปศาล โดยการสำรวจสถานที่คุมขังนายทักษิณที่ต้องมีความพิเศษเหมือนนักโทษทางการเมืองคนอื่น เนื่องจากเหตุผล 3 ประการ คือ 1.นายทักษิณเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี 2.นายทักษิณอาจถูกประทุษร้าย 3.ต้องดูแลอาการป่วยของนายทักษิณ
โดยได้ไปสำรวจห้องคุมขังของบุคคลมีชื่อเสียงต่าง ๆ เช่น ห้องคุมขังนายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย ห้องคุมขังนายราเกซ สักเสนา ผู้ต้องขังในคดียักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ (บีบีซี) ห้องคุมขังนายสนธิ ลิ้มทองกุล สื่อมวลชนอาวุโส ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เป็นต้น
นายวิษณุ ระบุอีกว่าได้เดินทางไปพิจารณาสถานที่กักขังของนักโทษรายสำคัญหลายรายเพื่อประกอบการตัดสินใจ แต่ไม่ได้มีการเตรียมย้ายตัวไปรักษาพยาบาลนอกทัณฑสถาน แต่ทั้งนี้มีการหารือว่าหากมีการเจ็บป่วยจะต้องส่งตัวไปที่โรงพยาบาลใด เบื้องต้นตั้งหลักให้เป็นโรงพยาบาลของรัฐบาล แต่หากมีอาการป่วยจำเพาะที่ต้องการหมอเฉพาะทางให้พิจารณาตามโรงพยาบาลที่มีข้อตกลงร่วม (MOU)
อย่างไรก็ตาม นายวิษณุ ได้พบนายทักษิณที่สถานพยาบาลในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยเข้าไปพร้อมคณะเจ้าหน้าที่เพื่อพูดคุยกับ นายทักษิณ เป็นระยะเวลา 20 นาที ณ ขณะนั้นยืนยันว่าไม่ได้มีการพูดถึงการพักโทษหรือการย้ายตัวคุมขัง นอกจากนี้ยังได้พูดถึงปัญหาสุขภาพของทักษิณ และการออกกำลังกายในครั้งที่อยู่ต่างประเทศ โดยได้ให้คำแนะนำว่าหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการต่างๆตามกฎหมาย อยากให้นายทักษิณได้บวชเข้าสู่ทางธรรม ซึ่งนายทักษิณแจ้งว่ามีปัญหาส่วนตัวเล็กน้อยจึงไม่สะดวก
นายวิญญัติ กล่าวอีกว่า นายวิษณุยืนยันว่าไม่มีการเตรียมการส่งตัวนายทักษิณออกไปรักษาภายนอก แต่เป็นเรื่องกระทันหันจึงต้องส่งตัวออกไปรักษายังโรงพยาภายนอก แม้นายทักษิณจะเลือกไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแต่ก็ไม่สามารถทำได้
ก่อนหน้านี้ศาลได้ไต่สวนนายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กลุ่มแพทย์ประจำสถานพยาบาลราชทัณฑ์ 5 ปาก และกลุ่มพัศดีเวรประจำวัน เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ แพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจ และตัวแทนจากแพทยสภาไปแล้ว ก่อนจะถึงคิวนายวิษณุเป็นปากสุดท้าย
ทั้งนี้ ศาลนัดฟังคำสั่งการบังคับโทษเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ในวันที่ 9 ก.ย. 2568 เวลา 10.00 น. เหตุที่นัดนานเนื่องจากมีพยานหลักฐานเอกสารจำนวนมาก และให้ออกหมายเรียกผู้บัญชาการเรือนจำคนปัจจุบันมา โดยเรียกตัวนายทักษิณ จำเลยมารับฟังด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ค. 68)
