
ศูนย์ออกแบบเพื่อสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CUD4S) ร่วมกับภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เปิดตัว ‘ER-VIPE’ (Emergency Room – Virtual Interprofessional Education) นวัตกรรมการศึกษาด้านการแพทย์ เพื่อฝึกอบรมทีมสหวิชาชีพดูแลผู้ป่วยวิกฤติฉุกเฉิน ผ่านเทคโนโลยีเสมือนจริง (Virtual Simulation) เสริมสร้างทักษะการทำงานเป็นทีม ป้องกันความผิดพลาดจากมนุษย์ (Human Error) และยกระดับความปลอดภัยผู้ป่วย
รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ความปลอดภัยของผู้ป่วยคือหัวใจสำคัญของการดูแลทางการแพทย์ โดย ‘ER-VIPE’ ช่วยให้ทีมสหวิชาชีพสามารถพัฒนาทักษะ Non-Technical Skills ฝึกฝนการทำงานร่วมกันได้ผ่านเทคโนโลยี Virtual Simulation ในสถานการณ์จำลองเสมือนจริง ผลลัพธ์ชัดเจนว่านวัตกรรมการเรียนรู้นี้ช่วยยกระดับทั้งความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความสุขของทีมงานให้เกิดขึ้นได้จริง
ผศ.พญ.ขวัญศิริ นราจีนรณ ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ แผนกเวชศาสตร์ฉุกเฉิน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และหัวหน้าโครงการ ER-VIPE กล่าวว่า “ER-VIPE เป็นนวัตกรรม”Med-Edutainment Technology” ที่ผสานพลังของ HEART (ภาพยนตร์สร้างแรงบันดาลใจ), HEAD (MOOC ความรู้), และ HAND (เกมจำลองสถานการณ์) เพื่อออกแบบการเรียนรู้ทางการแพทย์ฉุกเฉินในรูปแบบที่สนุก เข้าใจง่าย โดยใช้เทคโนโลยีจำลองสถานการณ์ฉุกเฉินเสมือนจริง (Virtual Simulation) ผสานแนวคิด TeamSTEPPS (Team Strategies and Tools to Enhance Performance and Patient Safety) หรือกลยุทธ์และเครื่องมือของทีมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผู้ป่วย ในการฝึกอบรม”ทีมสุขภาพสหสาขาวิชาชีพ” IPC (Inter-Professional Collaboration) ให้สามารถสื่อสาร ทำงานร่วมกัน และตัดสินใจในสถานการณ์วิกฤตอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันความผิดพลาดจากมนุษย์ (Human Error) ซึ่งพบว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของผู้ป่วยทั่วโลก
จากสถิติพบว่าการรับบริการทางการแพทย์ที่อาจไม่ปลอดภัยเกิดขึ้นในประเทศไทยสูงถึง 400,000 ครั้ง/ปี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 9,600 ล้านบาท/ปี ขณะที่ข้อมูลสถิติต่างประเทศเผยว่า การเสียชีวิตจาก “ข้อผิดพลาดทางการแพทย์” (Medical Error) มากกว่าเครื่องบินตกถึง 10,000 เท่า จึงจำเป็นต้องมีระบบฝึกทีมสุขภาพอย่างจริงจังเพื่อป้องกันความสูญเสียนี้ โดยเริ่มจากทีมที่แข็งแกร่งและทักษะการสื่อสาร
“การดูแลผู้ป่วยไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ใครเก่งที่สุด แต่ขึ้นอยู่กับว่าทีมทำงานด้วยกันได้ดีแค่ไหน งานวิจัยจำนวนมากชี้ตรงกันว่าความผิดพลาดทางการแพทย์ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากความรู้ไม่พอ แต่เกิดจากปัญหาทีมเวิร์ค” ผศ.พญ.ขวัญศิริ กล่าวย้ำ
ER-VIPE จึงออกแบบมาเพื่อให้แพทย์ พยาบาล เภสัชกร รังสีเทคนิค เทคนิคการแพทย์ และบุคลากรสุขภาพสาขาอื่น ๆ ได้ฝึกซ้อมสถานการณ์จริงในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง โดยไม่เสี่ยงต่อชีวิตจริงของผู้ป่วย พร้อมรับคำแนะนำและวิเคราะห์การทำงานเป็นทีมและผลความปลอดภัยของผู้ป่วยและทีมให้เห็นเป็นรูปธรรมผ่านระบบดิจิทัล
จากงานวิจัยชี้ชัดว่า การฝึกอบรมผ่าน ER-VIPE ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของผู้ป่วยอย่างมีนัยสำคัญช่วยลดความผิดพลาดทางการแพทย์เฉลี่ย 3.5 ครั้ง/เดือน, ลดการเสียชีวิตเฉลี่ย 2.3 ราย/เดือน และเพิ่มความพึงพอใจผู้ป่วยเกือบ 1% ต่อเดือน
ด้าน ดร.ทรรศวรรณ ปรีดาวิภาต ผู้อำนวยการศูนย์ออกแบบเพื่อสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับศูนย์ออกแบบการศึกษาเพื่อสังคม CUD4S Academy แห่งคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงานเสวนา “ER-VIPE พัฒนาทีมสุขภาพไทยอย่างยั่งยืน” เพื่อเปิดมุมมองใหม่ของผู้นำสหสาขาวิชาชีพในการพัฒนาทีมสุขภาพ และสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชน ตามมาตรฐานสากล
CUD4S มีความเชื่อว่าการออกแบบไม่ควรถูกจำกัดอยู่เพียงในรูปแบบสิ่งปลูกสร้าง แต่ยังสามารถออกแบบ “ระบบ” ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนได้จริง โดยโครงการ ER-VIPE ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ถือเป็นต้นแบบของระบบการเรียนรู้รูปแบบใหม่ที่บูรณาการองค์ความรู้ด้านการแพทย์ การศึกษา และเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาทักษะทีมสุขภาพ และลดความผิดพลาดในห้องฉุกเฉิน โดยได้เริ่มทดลองใช้ในโรงพยาบาลนำร่อง 5 แห่ง ซึ่งจากผลการวิจัยพบว่า โครงการสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารได้ถึง 28% ลดข้อผิดพลาดร้ายแรงในห้องฉุกเฉินได้ 38 ครั้ง และช่วยลดภาวะหมดไฟ (Burnout) ของบุคลากรอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ ยังได้มีการระดมความคิดเห็นผู้แทน 9 องค์กรวิชาชีพสุขภาพ วางแนวทางขับเคลื่อนสู่นโยบายระดับชาติ ผ่านเวทีเสวนาวิชาการ “ER-VIPE : พัฒนาทีมสุขภาพ สู่ความปลอดภัยผู้ป่วยอย่างยั่งยืน” ควบคู่โครงการฝึกอบรม TeamSTEPPS Essential and IPE Virtual Simulation Workshop รุ่นที่ 2 โดยได้รับการสนับสนุนจากภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ร่วมด้วยศูนย์ออกแบบการศึกษาเพื่อสังคม CUD4S Academy แห่งคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ Takeda (Thailand), Ltd.
ตัวแทนทั้ง 9 องค์กรวิชาชีพเห็นพ้องร่วมกันว่า การทำงานร่วมกันเป็นทีมแบบสหวิชาชีพ (Interprofessional Collaboration) เป็นหัวใจสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยของผู้ป่วย (Patient Safety) ปัญหาสำคัญในระบบสุขภาพไทยไม่ได้เกิดจากความรู้ความสามารถของบุคลากรที่ไม่เพียงพอแต่มาจากการทำงานที่แยกส่วนและปัญหาเรื่องการสื่อสาร (Communication Breakdown)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ส.ค. 68)