โนมูระฟันธงเฟดหั่นดอกเบี้ยเดือนก.ย. หลังตลาดแรงงานซบ-เงินเฟ้อเสี่ยงน้อยลง

นักเศรษฐศาสตร์ของโนมูระ โฮลดิงส์ (Nomura Holdings) คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หลังมีข้อมูลบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานอ่อนแอลงและความเสี่ยงจากเงินเฟ้อลดน้อยลง

โนมูระคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. และจากนั้นจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 2 ครั้ง คือในเดือนธ.ค.ปีนี้ และในเดือนมี.ค.ปีหน้า

ทั้งนี้ การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยสินค้าในหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องกับภาษีนำเข้าปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มาก ซึ่งทำให้ตลาดมีความมั่นใจว่าภาษีดังกล่าวจะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่รุนแรงเกินไป

หลังมีการเปิดเผยดัชนี CPI นักลงทุนบางส่วนเริ่มคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งสอดคล้องกับที่สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ บิสิเนส (Fox Business) ว่า เฟดควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมครั้งถัดไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 16-17 ก.ย.

ขณะเดียวกันการชะลอตัวของตลาดแรงงานสหรัฐฯ ก็เป็นปัจจัยสนับสนุนการคาดการณ์ว่าจะเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าเช่นกัน โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 73,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 106,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนมิ.ย.เป็นเพิ่มขึ้นเพียง 14,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้นมากถึง 147,000 ตำแหน่ง และปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ค.เป็นเพิ่มขึ้นเพียง 19,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้นมากถึง 125,000 ตำแหน่ง

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ส.ค. 68)