
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจใหม่ บมจ. สามารถคอร์ปอเรชั่น [SAMART] เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/68 สดใส รายได้รวม 2,401 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 297 ล้านบาท หรือ 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
และมีกำไรในส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น อยู่ที่ 160 ล้านบาท ดีขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุน 183 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนบริษัทฯมีการรับรู้ผลขาดทุนจากการประมาณการหนี้สินระยะยาวจากกรณีข้อพิพาทกับคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 และการกีฬาแห่งประเทศไทย จำนวน 283 ล้านบาท
ประกอบกับ การที่ภาครัฐเร่งขยายการลงทุนขนาดใหญ่ภายในประเทศ บวกกับบริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ภาพรวมบริษัทฯ มีผลกำไรจากการดำเนินงานที่ดีขึ้น
สำหรับรายได้ครึ่งปีแรก 5,298 ล้านบาท และมีกำไรสูงถึง 215 ล้านบาท หรือเติบโตมากถึงกว่า 267% ปัจจุบันกลุ่มสามารถมีงานในมือทะลุ 1.56 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปอีกประมาณ 5 ปี หรือถึงปี 2572
- สายธุรกิจ Digital ICT Solutions ภายใต้บริหารบมจ. สามารถเทเลคอม [SAMTEL] มีการลงนามสัญญาโครงการกับหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ โครงการกับการนิคมอุตสาหกรรม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กรมที่ดิน เป็นต้น โดยมีรายได้รวม 1,005 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 33 ล้านบาท ทำให้มีกำไรสุทธิรวมครึ่งปีแรกที่ 86 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 220% รวมครึ่งปีแรกคว้างานไปได้มากกว่า 5 พันล้านบาท ตุน backlog ในมือแล้วกว่า 8,500 ล้านบาท
ส่วนครึ่งปีหลัง SAMTEL เตรียมเข้าประมูลงานใหญ่อื่นของทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมมูลค่าราว 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีรายได้แบบ recurring income เพิ่มขึ้น
- สายธุรกิจ Utilities and Transportations มีรายได้รวม 1,262 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดย บมจ. สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ [SAV] ธุรกิจด้านการให้บริการจัดการการจราจรทางอากาศที่ประเทศกัมพูชามีรายได้เพิ่มขึ้น 37 ล้านบาท มีจำนวนเที่ยวบินอยู่ที่ 30,292 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 5,614 เที่ยวบินหรือคิดเป็น 23% ในขณะที่ลดลง จากไตรมาสก่อนจำนวน 527 เที่ยวบินหรือคิดเป็น 2%
แม้จำนวนเที่ยวบินลดลงตามฤดูกาล แต่ปริมาณการบินผ่านน่านฟ้ายังมีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นผลมาจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในเวียดนามและมาเลเซีย ซึ่งส่งผลดีต่อรายได้บริการที่เกี่ยวข้องกับการบินข้ามน่านฟ้า รวมถึงสายการบินรุ่นลี่แอร์ไลน์สของจีน ได้กลับมาให้บริการหลังจากระงับบริการหลายปี ซึ่งน่าจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนชาวจีนเข้ามามากขึ้น
ส่วนครึ่งปีหลังจะได้ผลบวกจากการเปิดสนามบินแห่งชาติใหม่ “เตโช” ที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 13 ล้านคน ต่อปี ด้านสถานการณ์ความไม่สงบในเขตชายแดน บริษัทยังสามารถดำเนินงานได้ตามปกติ เนื่องจากธุรกิจการบิน มีความจำเป็นเชิงโครงสร้างต่อระบบการบินของประเทศ ทั้งในแง่ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน การใช้บุคลากรท้องถิ่นที่มีสัดส่วนสูงถึง 99%
ด้านธุรกิจก่อสร้างโครงการสายส่งสถานีไฟฟ้าแรงสูงแบบครบวงจรภายใต้ บริษัท เทด้า จำกัด ก็ยังสามารถขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง มีรายได้รวม 477 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ล่าสุดได้งานก่อสร้างโครงการสายส่งสถานีไฟฟ้าแรงสูง และงานก่อสร้างสถานีย่อย มูลค่ารวมกว่า 1,800 ล้านบาท รวมทั้งจากโครงการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการการเก็บภาษีสรรพสามิตด้วย ส่งผลให้สายธุรกิจนี้มีมูลค่างานในมืออยู่ที่ 6,372 ล้านบาท
- สายธุรกิจ Digital Communications ภายใต้การบริหารบมจ.สามารถ ดิจิตอล [SDC] มีรายได้รวมกว่า 141 ล้านบาท และมีกำไร 15 ล้านบาท โดย มุ่งเน้นให้บริการ อย่างเต็มรูปแบบในโครงข่ายวิทยุคมนาคมระบบดิจิตอล (Digital Trunked Radio System: DTRS) โดยได้ครอบคลุมพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ 2/68 สายธุรกิจ Digital Communications มีมูลค่างานคงค้างอยู่ที่ 735 ล้านบาท
“ปีนี้รายได้เรามีโอกาสแตะ 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท โดยช่วงไตรมาสแรก เรามีรายได้ไปแล้วราว 2,897 ล้านบาท ไตรมาส 2 มีรายได้อีก 2,401 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีที่เหลือมองว่าทุกกลุ่มธุรกิจจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีการรับรู้รายได้ 6,000 – 7,000 ล้านบาทได้ไม่ยาก จากงานในมือที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งมีโอกาสได้รับโครงการใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งเราประเมินว่าภาครัฐจะออกโนบายกระตุ้นเศรษฐกิจอีกมากในช่วงหลังจากนี้” นายวัฒน์ชัย กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ส.ค. 68)