อิสราเอลอ้างเหตุโจมตีโรงพยาบาลในกาซาเป็น “ความผิดพลาดที่น่าเศร้า”

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวว่า เหตุการณ์โจมตีโรงพยาบาลนาสเซอร์ในฉนวนกาซาเมื่อวันจันทร์ (25 ส.ค.) ถือเป็น “ความผิดพลาดที่น่าเศร้า” ขณะที่สันนิบาตอาหรับและอียิปต์ออกโรงประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้สื่อข่าว 5 ราย และบุคลากรทางการแพทย์ 4 ราย

อาห์เหม็ด อาบูล เกอิต เลขาธิการสันนิบาตอาหรับ กล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้ “เป็นเพียงอีกหนึ่งเหตุการณ์ของการสังหารหมู่อย่างต่อเนื่องซึ่งมุ่งเป้าไปที่พลเรือนอย่างจงใจ” ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศอียิปต์กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เป็น “เหตุการณ์ใหม่ล่าสุดของการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้งของอิสราเอลที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน”

ด้านนายกฯ อิสราเอลแก้ต่างว่า “อิสราเอลให้ความสำคัญกับการทำงานของผู้สื่อข่าว บุคลากรทางการแพทย์ และพลเรือนทุกคน” โดยหน่วยงานทางทหารของอิสราเอลกำลังดำเนินการสืบสวนอย่างละเอียด

เอฟฟี เดฟริน โฆษกกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “กองทัพไม่ได้ตั้งใจโจมตีพลเรือน” และกล่าวโทษกลุ่มฮามาสว่าสร้าง “เงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้” ในกาซา

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของกาซาเปิดเผยว่า การโจมตีครั้งแรกพุ่งเป้าไปที่ชั้น 4 ของอาคารโรงพยาบาล และการโจมตีครั้งที่สองมุ่งเป้าไปที่ทีมแพทย์ซึ่งกำลังเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากการโจมตีครั้งแรก

สถานีโทรทัศน์ Kan TV ของอิสราเอลรายงานโดยอ้างข้อมูลจากกองทัพอิสราเอลว่า การโจมตีดังกล่าวใช้รถถัง ไม่ใช่เครื่องบิน โดยรายงานระบุว่ารถถังเล็งเป้าไปที่กล้องตัวหนึ่งในโรงพยาบาล ซึ่งกองทัพอิสราเอลเชื่อว่ากลุ่มฮามาสใช้ในการติดตามความเคลื่อนไหวของทหาร

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2566 อิสราเอลไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวต่างชาติเข้าไปในกาซา แต่ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นยังคงรายงานข่าวอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของกาซาระบุว่า มีผู้สื่อข่าวอย่างน้อย 273 คน และประชาชนรวม 62,744 คน เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอล

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ส.ค. 68)