ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (11 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มป้องกันประเทศที่พุ่งขึ้น ขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับการตัดสินใจของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่คงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามคาด
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 555.33 จุด เพิ่มขึ้น 3.04 จุด หรือ +0.55%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,823.52 จุด เพิ่มขึ้น 62.20 จุด หรือ +0.80%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,703.65 จุด เพิ่มขึ้น 70.70 จุด หรือ +0.30% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,297.58 จุด เพิ่มขึ้น 72.19 จุด หรือ +0.78%
ดัชนีหุ้นกลุ่มอากาศยานและการป้องกันประเทศแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยพุ่งขึ้น 2.5% หลังนักลงทุนประเมินความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในยุโรปตะวันออกอย่างต่อเนื่อง หลังโปแลนด์ยิงโดรนรัสเซียต้องสงสัยตกเมื่อต้นสัปดาห์
หุ้น BAE Systems พุ่งขึ้น 6.3%, หุ้น Rheinmetall เพิ่มขึ้น 2.3% และหุ้น Rolls-Royce บวก 2.1%
ECB คงอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันพฤหัสบดีตามคาด แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงทิศทางต่อไป โดยย้ำว่าการตัดสินใจใด ๆ จะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อปี 2570 ลงมาอยู่ที่ 1.9% จากเดิม 2.0% ที่คาดไว้ในเดือนมิ.ย. ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ที่ 1.8% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2%
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า การที่ ECB คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ระดับ 2% แสดงถึงความมั่นใจว่ายุโรปยังสามารถรับมือกับผลกระทบจากมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้
หุ้นกลุ่มก่อสร้างและวัสดุพุ่งขึ้น 1.4% หลัง JP Morgan ปรับมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นวัสดุก่อสร้างหลักของยุโรป โดยเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้น Buzzi ของอิตาลี และหุ้น Heidelberg ของเยอรมนี ส่งผลให้ให้หุ้น Buzzi พุ่ง 6.7% และหุ้น Heidelberg เพิ่มขึ้น 2.5%
หุ้น Stellantis พุ่ง 9.1% หลัง อันโตนิโอ ฟิโลซา ซีอีโอคนใหม่ระบุว่า บริษัทจะนำรถรุ่น Jeep Cherokee และรถกระบะ RAM เครื่องยนต์ 8 สูบกลับมาทำตลาดอีกครั้ง หนุนให้ดัชนีกลุ่มยานยนต์พุ่ง 1.27%
ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศสปิดบวก แม้ยังเผชิญความไม่แน่นอนทางการเมืองและการคลัง โดย Citigroup ปรับลดมุมมองการลงทุนในหุ้นฝรั่งเศสจาก overweight ลงเป็น neutral ก่อนการประเมินอันดับความน่าเชื่อถือของ Fitch ในวันศุกร์นี้
หุ้น Kering เพิ่มขึ้น 2.4% หลังเจ้าของแบรนด์ Gucci รายนี้ยืนยันว่า จะยังไม่เข้าซื้อหุ้นแบรนด์ Valentino ของอิตาลีเต็มจำนวนจนกว่าจะถึงอย่างน้อยปี 2571 ทำให้เลื่อนดีลที่มีมูลค่าสูงซึ่งจะกดดันภาระหนี้ของ Kering ออกไป
ในฝั่งสหรัฐฯ นั้น นักลงทุนประเมินข้อมูลเงินเฟ้อจากดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนส.ค.ของสหรัฐฯ ที่ออกมาสูงกว่าคาด แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงการคาดการณ์ของนักลงทุนเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ย. 68)
