
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (15 ก.ย.) ส่วนดัชนี S&P500 ปิดที่เหนือระดับ 6,600 จุดเป็นครั้งแรก โดยได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความเห็นเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้ากับจีน ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธนี้ โดยมีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
- ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 45,883.45 จุด เพิ่มขึ้น 49.23 จุด หรือ +0.11%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,615.28 จุด เพิ่มขึ้น 30.99 จุด หรือ +0.47% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,348.75 จุด เพิ่มขึ้น 207.65 จุด หรือ +0.94%
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และเหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้เจรจาร่วมกันเป็นวันที่ 2 ในประเด็นอัตราภาษีศุลกากรและการขยายเส้นตายการขายกิจการติ๊กต๊อก (TikTok) ในสหรัฐฯ โดยล่าสุดปธน.ทรัมป์โพสต์ข้อความบน Truth Social ว่า การเจรจาเป็นไปในทางบวก พร้อมกับส่งสัญญาณว่า สหรัฐฯ สามารถบรรลุข้อตกลงกับจีนเกี่ยวกับ TikTok แล้ว และเขาจะสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในวันศุกร์นี้
ทั้งนี้ ไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ TikTok เผชิญเส้นตายในการขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ ภายในวันที่ 17 ก.ย. มิฉะนั้น TikTok จะถูกยกเลิกบริการในสหรัฐฯ
หุ้นเทสลา (Tesla) พุ่งขึ้น 3.6% หลังจากเอกสารการที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ระบุว่า อีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา ได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัทเทสลาจำนวน 2.57 ล้านหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่าเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์
หุ้นอัลฟาเบท (Alphabet) พุ่งขึ้น 4.3% ส่งผลให้มูลค่าตลาดของอัลฟาเบททะยานขึ้นแตะระดับ 3.05 ล้านล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นเทสลาเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยในดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น 1.1% แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 9 เดือน ส่วนการพุ่งขึ้นของหุ้นอัลฟาเบทช่วยหนุนหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารในดัชนี S&P500 ทะยานขึ้น 2.33%
หุ้นคอร์วีฟ (CoreWeave) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลปัญญาประดิษฐ์ (AI) พุ่งขึ้น 7.6% หลังจากคอร์วีฟลงนามในข้อตกลงกับอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งจะเป็นการรับประกันว่าอินวิเดียจะซื้อกำลังการประมวลผลคลาวด์ส่วนที่เหลือทั้งหมดที่ไม่ได้ขายให้กับลูกค้า โดยข้อตกลงดังกล่าวมีมูลค่าเริ่มต้นที่ 6.3 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี หุ้นอินวิเดียขยับลง 0.04% หลังจากมีรายงานว่าหน่วยงานกำกับดูแลตลาดของจีนยังคงเดินหน้าสอบสวนอินวิเดีย หลังจากผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าบริษัทได้ละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของจีน
ส่วนหุ้นแมคโดนัลด์ (McDonald’s) ร่วงลง 1.09% และหุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (Procter & Gamble) ปรับตัวลง 0.68% ซึ่งส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ลดช่วงบวก
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันพุธที่ 17 ก.ย.นี้ ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 96.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมครั้งนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ย. 68)