“ทรัมป์” เตรียมประกาศเตือนหญิงมีครรภ์เลี่ยง Tylenol หวั่นทารกเป็นออทิสติก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมจัดการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวในวันนี้ ร่วมกับนายโรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขสหรัฐ โดยจะเป็น “การประกาศทางการแพทย์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ”

การแถลงข่าวดังกล่าวจะมีขึ้นในวันนี้ (22 ก.ย.) เวลา 16.00 น. ตามเวลาสหรัฐ หรือวันพรุ่งนี้ (23 ก.ย.) เวลา 03.00 น.ตามเวลาไทย

ทั้งนี้ ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในงานรำลึกถึงนายชาร์ลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวสายอนุรักษนิยมที่รัฐแอริโซนา ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า “ผมคิดว่าเราได้ค้นพบคำตอบของโรคออทิซึมแล้ว โดยเราจะทำการประกาศทางการแพทย์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศเรา”

คาดว่า ปธน.ทรัมป์จะประกาศว่า การใช้ยาลดไข้บรรเทาปวดไทลินอล (Tylenol) หรือที่รู้จักกันในชื่อ พาราเซตามอล (Paracetamol) ในประเทศอื่น ๆ ระหว่างการตั้งครรภ์ อาจมีความเชื่อมโยงกับภาวะออทิซึม ซึ่งจะทำให้ทารกที่เกิดมาเสี่ยงต่อการเกิดโรคดังกล่าว โดยเขาจะแนะนำให้สตรีมีครรภ์ในสหรัฐ หลีกเลี่ยงยาไทลินอล และให้ใช้เพื่อบรรเทาอาการไข้สูงเท่านั้น

ไทลินอลเป็นยาที่ได้รับความนิยมในสหรัฐ แคนาดา และบางประเทศ โดยมีตัวยาสำคัญคือ อะเซตามิโนเฟน (Acetaminophen) ซึ่งถูกบ่งชี้ว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคออทิซึม

อย่างไรก็ดี บรรดาผู้เชี่ยวชาญในวงการแพทย์ได้ออกมาแสดงความกังวล หลังทรัมป์กล่าวอ้างความเชื่อมโยงระหว่างยาไทลินอลกับโรคออทิสติกโดยไม่มีหลักฐานรองรับ โดยระบุว่า คำเตือนของทรัมป์ที่ให้สตรีมีครรภ์หลีกเลี่ยงการใช้ยาไทลินอลนั้น “น่ากังวลอย่างยิ่ง” และ “ขาดความรับผิดชอบ” เพราะถึงแม้จะมีงานวิจัยบางชิ้นที่เคยกล่าวถึงความเชื่อมโยงดังกล่าว แต่ผลการศึกษาเหล่านี้ยังไม่สอดคล้องและไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน

องค์กรการแพทย์ชั้นนำหลายแห่ง เช่น สมาคมเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ (SMFM) และวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกา (ACOG) ต่างออกมายืนยันว่า อะเซตามิโนเฟน หรือที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในชื่อยาพาราเซตามอล มีความปลอดภัยสำหรับสตรีมีครรภ์ และชี้ว่าโรคออทิสติกมีหลายสาเหตุ โดยความเชื่อมโยงกับยานี้ยังไม่ได้รับการยืนยันที่แน่ชัด

สตีเวน เฟลชแมน ประธาน ACOG ระบุในแถลงการณ์ว่า “การกล่าวอ้างว่ายาพาราเซตามอลเป็นสาเหตุของโรคออทิสติกนั้น ไม่เพียงทำให้แพทย์กังวลอย่างยิ่ง แต่ยังเป็นการขาดความรับผิดชอบอย่างมาก เมื่อพิจารณาถึงข้อความที่เป็นอันตรายและสร้างความสับสนต่อผู้ป่วยที่ตั้งครรภ์ ซึ่งบางคนอาจจำเป็นต้องใช้ยาที่มีประโยชน์นี้”

ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่า การปล่อยให้มีไข้โดยไม่รักษาอาจเป็นอันตรายต่อทั้งแม่และทารกในครรภ์ โดยเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแท้ง ความพิการแต่กำเนิด และความดันโลหิตสูง งานวิจัยระบุว่า ผู้ตั้งครรภ์ส่วนใหญ่ใช้ยาพาราเซตามอลในระหว่างการตั้งครรภ์ เนื่องจากเป็น ยาแก้ปวดและลดไข้ชนิดเดียวที่หาซื้อได้ทั่วไปและถือว่าปลอดภัย ในขณะที่ยาชนิดอื่น เช่น ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) หรือ แอสไพริน (aspirin) แบบปกติ อาจเพิ่มความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้

ขณะเดียวกัน เคนวิว (Kenvue) ผู้ผลิตยาไทลินอล ได้ออกมายืนยันความปลอดภัยของยา โดยแถลงว่า “ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง” ที่ยาพาราเซตามอลเป็นสาเหตุของภาวะออทิซึม

บริษัทระบุในแถลงการณ์ว่า “อะเซตามิโนเฟนเป็นทางเลือกในการบรรเทาปวดที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับสตรีมีครรภ์” และเสริมว่า หากไม่มีตัวเลือกนี้ ผู้หญิงอาจต้องเผชิญทางเลือกที่อันตราย คือ “ทนกับอาการ เช่น ไข้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อทั้งแม่และลูก หรือเลือกใช้ยาทางเลือกที่มีความเสี่ยงกว่า” พร้อมย้ำว่า “ไข้สูงและอาการปวดเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าเป็นความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับการตั้งครรภ์หากไม่ได้รับการรักษา” ทั้งนี้ เคนวิวจะยังคงย้ำเตือนให้สตรีมีครรภ์ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนใช้ยาที่หาซื้อได้เอง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 68)