
ทำเนียบขาวได้แก้ต่างคำกล่าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางเริ่มถูกเลิกจ้างจากภาวะชัตดาวน์ โดยชี้ว่ายังไม่มีการปลดพนักงานเกิดขึ้นในขณะนี้ แต่เตือนว่าหากสถานการณ์ยืดเยื้อต่อไป อาจมีการสูญเสียตำแหน่งงานจริง ๆ หลังจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลบางส่วนได้ดำเนินมาเป็นวันที่ 7 แล้ว
ภาวะชัตดาวน์ครั้งนี้ทำให้เงินงบประมาณราว 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 1 ใน 4 ของการใช้จ่ายภาครัฐต่อปี ต้องหยุดชะงัก ส่วนงบที่เหลือส่วนใหญ่เป็นงบสำหรับโครงการด้านสุขภาพ เงินบำนาญ และการชำระดอกเบี้ยหนี้สาธารณะที่ขณะนี้แตะระดับ 37.88 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
วุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของพรรครีพับลิกัน ปฏิเสธร่างกฎหมายงบประมาณ 2 ฉบับเป็นครั้งที่ 5 ทั้งข้อเสนอของรีพับลิกันที่ต้องการจัดสรรงบประมาณจนถึงวันที่ 21 พ.ย. และร่างของเดโมแครตที่รวมการขยายเงินอุดหนุนด้านเฮลท์แคร์ซึ่งกำลังจะหมดอายุในสิ้นปีนี้
ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่าเขาพร้อมเจรจาเรื่องเงินอุดหนุนดังกล่าว ซึ่งช่วยให้ประชาชนราว 24 ล้านคนซื้อประกันสุขภาพผ่านกฎหมาย Affordable Care Act ขณะที่เดโมแครตยืนยันว่าการต่ออายุเงินอุดหนุนนี้เป็นข้อเรียกร้องหลัก และเป็นเหตุผลสำคัญที่ไม่เห็นชอบร่างงบประมาณของรีพับลิกัน
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 6 ของการชัตดาวน์ ทรัมป์และชัค ชูเมอร์ วุฒิสมาชิกเดโมแครต ยังไม่สามารถเห็นตรงกันแม้แต่เรื่องที่ว่ามีการเจรจากันเกิดขึ้นจริงหรือไม่ โดยทรัมป์ยืนยันว่ากำลังมีการพูดคุย แต่ชูเมอร์กลับระบุว่าไม่มีการเจรจาใด ๆ
ด้านสภาผู้แทนราษฎรซึ่งนำโดยรีพับลิกันไม่ได้เปิดประชุม ขณะที่ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาฯ ระบุว่า จะไม่เรียกประชุมอีกจนกว่ารัฐบาลจะได้รับงบประมาณ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ต.ค. 68)