
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (9 ต.ค.) หลังจากอิสราเอลและกลุ่มฮามาสได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งลดโอกาสที่จะทำให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกเผชิญภาวะชะงักงัน
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1.66% ปิดที่ 61.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.03 ดอลลาร์ หรือ 1.55% ปิดที่ 65.22 ดอลลาร์/บาร์เรล
อิสราเอลและกลุ่มฮามาสได้ลงนามในข้อตกลงหยุดยิงในวันพฤหัสบดี โดยภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว รัฐบาลอิสราเอลจะปล่อยนักโทษชาวปาเลสไตน์ราว 2,000 คน ซึ่งรวมถึงเยาวชนและนักรบชาวปาเลสไตน์ ขณะที่ฮามาสจะส่งตัวประกันชาวอิสราเอลที่ยังมีชีวิต 20 ราย และส่งมอบร่างของตัวประกันที่เสียชีวิตอีก 28 รายกลับคืนสู่อิสราเอล
นอกจากนี้ ตามข้อตกลงในระยะที่หนึ่ง อิสราเอลจะถอนกำลังทหารออกจากเมืองกาซา เมืองราฟาห์ และเมืองข่านยูนิส รวมทั้งจะมีการเปิดด่านชายแดน 5 แห่ง เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่กาซา และอิสราเอลจะยุติปฏิบัติการโดรนในกาซาในระหว่างกระบวนการปล่อยตัวประกัน
นักวิเคราะห์จาก Rystad Energy แสดงความเห็นว่า ข้อตกลงสันติภาพระหว่างอิสราเอลและฮามาสเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ตะวันออกกลาง โดยข้อตกลงนี้มีนัยยะสำคัญต่อตลาดน้ำมันเป็นวงกว้าง ตั้งแต่ความเป็นไปได้ที่กลุ่มกบฎฮูตีจะลดการโจมตีในทะเลแดง ไปจนถึงการเพิ่มโอกาสที่จะมีการทำข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน
ความขัดแย้งที่สิ้นสุดลงระหว่างอิสราเอลและฮามาสส่งผลให้ราคาน้ำมันปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากราคาพุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันพุธ เนื่องจากทำการข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนไม่มีความคืบหน้า ทำให้รัสเซียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของโลกยังคงถูกคว่ำบาตร
ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ถูกชัตดาวน์เป็นวันที่ 9 และแทบไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าพรรครีพับลิกันและเดโมแครตจะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการผ่านร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณชั่วคราว ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าการชัตดาวน์ที่ยืดเยื้ออาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมัน
วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ลงมติผลักดันร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวครั้งที่ 6 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ด้วยคะแนนเสียง 54 ต่อ 45 แต่คะแนนสนับสนุนไม่ถึง 60 คะแนนซึ่งเป็นเกณฑ์สำคัญในการผ่านร่างกฎหมายเพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลมีงบประมาณไปจนถึงวันที่ 21 พ.ย. ส่งผลให้การชัตดาวน์ยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่สำนักงานงบประมาณของสภาคองเกรส (CBO) ประมาณการว่า พนักงานของรัฐบาลกลางประมาณ 750,000 คนจะถูกสั่งพักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างในช่วงการชัตดาวน์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ต.ค. 68)