
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (14 ต.ค.) สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) เตือนว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีหน้า นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 79 เซนต์ หรือ 1.33% ปิดที่ 58.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 93 เซนต์ หรือ 1.47% ปิดที่ 62.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันปรับตัวลง หลังจาก IEA ออกรายงานเตือนว่า ตลาดน้ำมันโลกอาจเผชิญกับภาวะอุปทานส่วนเกินที่เพิ่มขึ้นในปีหน้า ซึ่งอาจสูงถึง 4 ล้านบาร์เรล/วัน เนื่องจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส และบรรดาประเทศคู่แข่งของโอเปกพลัส ได้เพิ่มกำลังการผลิต ในขณะที่อุปสงค์ยังคงซบเซา
สถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังเป็นอีกปัจจัยที่กดดันตลาดน้ำมัน โดยจีนได้ประกาศคว่ำบาตรบริษัทในเครือ 5 แห่งของฮันฮวา โอเชียน (Hanwha Ocean) ซึ่งเป็นบริษัทต่อเรือสัญชาติเกาหลีใต้ โดยระบุว่าบริษัทในเครือทั้ง 5 แห่งซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐฯ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่สหรัฐฯ ดำเนินการสอบสวนอุตสาหกรรมการเดินเรือของจีน
มาตรการดังกล่าวถือเป็นการยกระดับความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ จีนได้ประกาศมาตรการคุมเข้มการส่งออกแร่หายากและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการผลิตแร่หายาก ส่งผลให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาตอบโต้ด้วยขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษี 100% สำหรับสินค้าจีนทั้งหมด
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ตัดสินใจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นกับเรือของจีนที่เข้าเทียบท่าในสหรัฐฯ โดยเริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ 14 ต.ค. ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเรือสหรัฐฯ ที่เข้าเทียบท่าในจีน โดยเริ่มตั้งแต่วันอังคารเช่นกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ต.ค. 68)