
นายจักรพันธ์ ติระศิริชัย ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่ ในชื่อ “Leveraged & Inverse ETF” (L&I ETF) โดยเริ่มเทรดเมื่อวันที่ 26 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 3 กอง ปริมาณการซื้อขายจนถึงวันที่ 10 ต.ค. เฉลี่ยวันละ 33 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตลท.มีแผนจะพัฒนาให้ L&I ETF ให้สามารถอ้างอิงกับดัชนีต่างประเทศได้ผ่านผลิตภัณฑ์ DR (Depositary Receipt) คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในต้นปีหน้า ซึ่งการมี L&I ETF เข้ามาช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนรู้จักและใช้ ETF มากขึ้น โดยมองว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะดึงดูดนักลงทุนรุ่นใหม่เข้ามาเพิ่มมากขึ้น
สำหรับ L&I ETF เป็นกองทุน ETFs รูปแบบหนึ่งที่มีนโยบายการสร้างผลตอบแทนเป็นแบบทวีคูณ (Leveraged) หรือ แบบตรงกันข้าม (Inverse) กับดัชนีอ้างอิงโดยคำนวณผลตอบแทนเป็นแบบรายวัน โดยเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับเทรดดิ้ง ไม่เหมาะกับการถือครองระยะยาวเนื่องจากมีปัจจัยที่เรียกว่า “Compounding Effect” หรือผลกระทบจากดอกเบี้ยทบต้นเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งอาจทำให้ผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
ปัจจุบัน L&I ETF มีจำนวน 3 กองทุน และอ้างอิงดัชนี SET50 Total Return Index (SET50 TRI) ออกโดย บลจ.บางกอกแคปปิตอล จำกัด (BCAP) และมี บล.บัวหลวง เป็นผู้จัดจำหน่ายและผู้ดูแลสภาพคล่อง โดยเชื่อว่าจะมี บลจ.ออกกองทุนอ้างอิงดัชนี SET50 อีก 1-2 ราย ขณะที่ต้นปี 69 จะเห็นความชัดเจนผลิตภัณฑ์ L&I ETF สามารถอ้างอิงกับดัชนีต่างประเทศผ่านผลิตภัณฑ์ DR
ด้านผลิตภัณฑ์ DR ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ปัจจุบันมีผู้ออก 8 ราย เพิ่มจากปี 67 ที่ 4 ราย โดยมีผลิตภัณฑ์ DR 177 Drs มูลค่าตลาดปัจจุบันอยู่ที่ 51,000 ล้านบาท จากปี 67 อยู่ที่ 29,422 ล้านบาท ปริมาณการซื้อขายปัจจุบันอยู่ที่ 705 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 187% จากปี 67 สะท้อนให้เห็นว่าตลาดให้การตอบรับที่ดี สำหรับ DR สินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ เช่น Commodity ยังอยู่ระหว่างการหารือกับ ก.ล.ต.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ต.ค. 68)