รัฐบาลเล็งตั้ง 4 หน่วยงานลุยปราบสแกมเมอร์ ลั่น! ไทยต้องไร้ “เงินดำ-เงินเทา”

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวภายหลังการมอบนโยบาย แก่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ว่า วันนี้ได้มาขอทราบความต้องการจาก ปปง. ว่าต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนเรื่องใดบ้าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในยุคที่อาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือสแกมเมอร์ เป็นเรื่องที่ถูกบรรจุเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งการยึดทรัพย์ อายัดทรัพย์ของผู้กระทำผิด

ส่วนที่ตนได้พูดในที่ประชุมว่าหากไม่ดำเนินการปราบปรามสแกมเมอร์ จะถูกคว่ำบาตรจากนานาประเทศนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้เป็นเรื่องเฉพาะภายในประเทศ แต่เราไม่มีการสร้างความมั่นใจในเรื่องการปราบปรามผู้กระทำผิด โดยใช้ไทยเป็นฐานการฟอกเงิน ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประเทศไทย ทำให้ไม่เป็นผลดี และสร้างความเสียหายให้กับประเทศเป็นจำนวนมาก

“เรื่องนี้ ปปง. ต้องดำเนินการอย่างเต็มที่ ไม่ให้มีเรื่องเงินดำ เงินเทา มาอยู่ในระบบการเงินของไทย” นายกรัฐมนตรี กล่าวกำชับ

โดยความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการขึ้น 2 ชุดที่เข้ามาดูแลเรื่องนี้นี้ นายกรัฐมนตรี ขอให้ไปถามจากเลขาธิการ ปปง.

จ่อตั้ง 4 หน่วยงาน ร่วมปราบ “สแกมเมอร์-ฟอกเงิน”

ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้าน ออกมาเปิดเผยถึงขบวนการสแกมเมอร์นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีไม่ต้องจัดการ เพราะมีหน่วยงานทั้ง ปปง., สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดการแล้ว หรือหากมีส่วนไหนที่เข้าข่ายการฟอกเงิน ก็มีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ดูแล ร่วมกับ ปปง. พร้อมกันนี้ ยังมีการหารือกับนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธาน ปปง. ที่เสนอจะทำบันทึกความร่วมมือกับ 4 หน่วยงานหลัก คือ ปปง., กระทรวงมหาดไทย, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้หน่วยงานทั้งหมดนี้ มาช่วยกันทำงานปราบปรามการฟอกเงิน และใช้ระบบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ส่วนการวางกรอบเวลาในการแก้ไขปัญหานั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ต้องเร่งทำอยู่แล้ว ขณะนี้มีการอายัดเงินไว้กว่า 20,000 ล้านบาท และเริ่มทยอยฟ้องร้องผู้กระทำความผิด

“บางที เรื่องพวกนี้ไปพูดไม่ได้ คนก็เลยนึกว่าไม่ทำอะไร แต่ของพวกนี้ต้องใช้การข่าว ต้องไปสืบ ไปเจาะ และเมื่อมีหลักฐานครบถ้วน ก็ดำเนินการทันที” นายกรัฐมนตรี กล่าว

หนุนใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์

พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้รายงานเข้ามาเสมอ ถึงการยึดอายัดทรัพย์ในการกระทำความผิด ทั้งคดียาเสพติด การพนัน และการค้ามนุษย์ ซึ่งเรื่องพวกนี้หากออกมาพูดทั้งหมด ก็จะเหมือนเป็นการเผยไต๋ พร้อมกับย้ำว่า สิ่งที่รัฐบาลทำคือ การมีเครื่องไม้เครื่องมือมีเทคโนโลยีที่ต้องนำหน้าผู้กระทำความผิด และต้องอยู่เหนือกว่าผู้กระทำความผิดหนึ่งก้าว

ส่วนกรณีที่ ปปง. ขอการสนับสนุนเรื่องปัญญาประดิษฐ์ (AI) นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้ทำเรื่องเสนอขึ้นมา เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน เป็นภัยความมั่นคงของชาติ หากจะต้องใช้งบประมาณกลางมาดำเนินการก็ต้องใช้

ทั้งนี้ มีรายงานเรื่องแก๊งค์สแกมเมอร์เข้ามาตั้งถิ่นฐานในประเทศหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้บอกกับเลขาธิการ ปปง.ไปว่า หากลงพื้นที่ไปเดินแถวไหนที่มีความผิดปกติ จะเห็นรังสีอำมหิตแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ต้องเร่งดำเนินการ เพราะถูกกดดันจากประชาคมโลก และจากที่ตนเดินทางไปประชุมที่ต่างประเทศ ก็นำเรื่องนี้กลับมาเป็นวาระสำคัญของชาติ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ย. 68)