นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย แถลงการณ์ถึงประเด็นการชิงยุบสภาฯ หากมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยยืนยันว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรี จะปฏิบัติตามข้อตกลงกับพรรคประชาชน ทุกประการ ตามที่ได้แถลงต่อรัฐสภาไว้แล้วโดยจะยุบสภา ภายใน 120 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 31 ม.ค. 69
โดยรัฐบาลในห้วงเวลา 120 วัน มีภารกิจสำคัญ 3 ประการ คือ แก้ไขรัฐธรรมนูญ จัดทำประชามติ และยุบสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเราจะทำให้ครบ และเมื่อทำ 2 ภารกิจแรกสำเร็จแล้ว ก็จะยุบสภาฯ ซึ่งจะไม่เกินเวลา 120 วัน ตามที่ตกลงกันไว้กับพรรคประชาชน
นอกจากนี้ ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของประชาชน ของประเทศ 4 เรื่อง คือ 1) ปัญหาเศรษฐกิจ 2) ปัญหาความมั่นคง 3) ปัญหาภัยธรรมชาติ และ 4) ปัญหาภัยสังคม ยาเสพติด ฉ้อโกง หลอกลวงประชาชน ซึ่งเกิดขึ้นมาก่อนที่รัฐบาลนี้จะเข้ามาทำงาน ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา รัฐบาลนี้ไม่สามารถวางแผนทำงานเกินกว่า 4 เดือนได้
โดยขอย้ำว่ารัฐบาลนี้ มาแก้ปัญหาที่สะสมต่อเนื่องกันมายาวนาน ปัญหาพิพาทไทย-กัมพูชา ปัญหาสแกมเมอร์ มีมาตั้งแต่รัฐบาลก่อนหน้านี้ รัฐบาลไม่ได้สร้างปัญหา แต่มาแก้ปัญหา เช่นเดียวกับการมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ซบเซา จนเป็นที่มาของนโยบายลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น คนละครึ่งพลัส เที่ยวดีมีคืน แก้หนี้รายย่อย สุขกายสบายกระเป๋า
นายอนุทิน ระบุว่า รู้ตัวตลอดเวลาว่าเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ดังนั้น หากมีการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ เพื่อประโยชน์ทางการเมือง รัฐบาลย่อมไม่มีทางที่จะมีเสียงสนับสนุนมากกว่า รัฐบาลก็ต้องคิดว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงกับพรรคประชาชน แต่ถ้าเป็นการยื่นญัตติเปิดอภิปรายเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาของประเทศร่วมกัน ตนพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นอภิปรายไม่ไว้วางใจเท่านั้น จัดเวทีประชุม หรือมาพูดคุยหารือกัน ในลักษณะแบบนี้ได้ทั้งนั้น
ทั้งนี้ หากมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อมาเป็นรัฐบาลต้องพร้อมชี้แจง แม้ว่าจะมีในข้อตกลงหรือไม่มี ก็ตาม พร้อมย้ำว่า รัฐบาลพร้อมชี้แจง และไม่เคยคิดที่จะจับรัฐธรรมนูญเป็นตัวประกัน แต่เราจะเร่งแก้รัฐธรรมนูญให้เสร็จเร็วที่สุด ตามกรอบเวลาที่กำหนด จากนั้นจะยุบสภาฯ
ที่ผ่านมาตนได้เชิญ นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน มาหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาสแกมเมอร์ แต่ยังไม่ได้พบกัน เพราะเวลาไม่ตรงกัน วันที่ 14 หน่วยงานมาแถลงข่าวร่วมกัน ก็เชิญมาพูดคุยกันก่อน แต่เนื่องจากนายรังสิมันต์ มีภารกิจจึงไม่ได้มา แต่คิดว่าน่าจะมีเวลาตรงกัน และมาทำงานร่วมกัน เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
นายกฯ ระบุว่า ขอให้พรรคประชาชน ที่สนับสนุนให้มีรัฐบาลนี้ และประชาชนที่กำลังรอการเลือกตั้งใหม่ เชื่อมั่นได้ว่า ตนในฐานะนายกรัฐมนตรี จะปฏิบัติตามข้อตกลงกับพรรคประชาชนทุกประการ ตามที่ได้แถลงต่อรัฐสภาไว้แล้ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ย. 68)
