OKJ ร่วงกว่า 8% โบรกหั่นเป้าแรงหลังเปิดงบ Q3/68 กำไรดิ่ง 70% ยอดขายร้านเดิมวูบ กำลังซื้ออ่อนแอ-แข่งขันสูง

OKJ ร่วง 8.55% มาที่ 4.28 บาท ลดลง 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 15.20 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.37 น.จากราคาเปิด 4.54 บาท ราคาต่ำสุด 4.22 บาท ราคาสูงสุด 4.56 บาท

บล.โกลเบล็ก ระบุ บมจ.ปลูกผักเพราะรักแม่ [OKJ] ผลประกอบการไตรมาส 3/68 แย่กว่าคาด เนื่องจากรายได้อ่อนแอและยอดขายสาขาเดิมติดลบ (-SSSG) โดยรายงานกำไรสุทธิ 17.3 ล้านบาท (-27% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, -71% เทียบปีก่อนหน้า) ส่วนใหญ่จากผลกระทบของภาระการดำเนินงานสูง

ร้านอาหารรายได้ลดลงเหลือ 545 ล้านบาท (-0.5% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, -2.2% เทียบปีก่อนหน้า) ยอดขายสาขาเดิมติดลบ (SSSG) อยู่ที่ -23.0% เทียบกับ -22.1% ในไตรมาส 2/68 และ +16.8% ในไตรมาส 3/67 เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคอ่อนแอและการแข่งขันรุนแรงขึ้น ทำให้ SSSG ของสาขาในกรุงเทพฯ ชั้นในและพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูงในเขตชานเมืองยังมีอย่างต่อเนื่อง

อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อยู่ที่ 42% ในในไตรมาส 3/68 เทียบกับ 43.8% ในไตรมาส 2/68 และ 45.2% ในไตรมาส 3/67 เนื่องจากรายได้ลดลง นำไปสู่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ต่อรายได้เพิ่มขึ้นจาก 27.4% ในไตรมาส 3/67 เป็น 33.8% ในไตรมาส 3/68

อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนค่าใช้จ่ายบริหารต่อรายได้ลดลงเหลือ 5.2% จาก 5.7% ในไตรมาส 3/67 เนื่องจากรายได้เติบโตจากการขยายสาขาและการควบคุมต้นทุนที่เหนือกว่า ในไตรมาส 3/68 OKJ ได้เพิ่มสาขาใหม่เพียง 1 สาขา สำหรับ Ohkajhu, Oh! Juice และ Joe Wings ในพื้นที่ที่มีความต้องการสูง อัตรากำไรสุทธิ (NPM) ลดลงเหลือ 2.4% ในไตรมาส 3/68 จาก 3.4% ในไตรมาส 2/68 และ 9.4% ในไตรมาส 3/67 เป็นผลมาจากโครงสร้างต้นทุนคงที่สูงและรายได้ลดลงอย่างมาก

รายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 711.4 ล้านบาท (+3.9% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, +12.3% เทียบปีก่อนหน้า) จากการขยายสาขา รายได้ภายใต้แบรนด์ Ohkajhu อยู่ที่ 596 ล้านบาท (83.4% ของรายได้) ลดลงจาก 548 ล้านบาทในไตรมาส 2/68 ประกอบด้วย รายได้ที่ลดลงจากร้านอาหาร (545 ล้านบาท) และบริการเดลิเวอรี่ (7.8 ล้านบาท) ซึ่งถูกชดเชยบางส่วนด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขายส่ง (Trading sales) (39.8 ล้านบาท) และซูเปอร์มาร์เก็ต (3.6 ล้านบาท) รายได้จาก Oh! Juice เติบโตเป็น 102.5 ล้านบาท (14.4% ของรายได้) ในไตรมาส 3/68 และรายได้จาก Joe Wings อยู่ที่ 10.9 ล้านบาท (1.5%)

ยอดขายสาขาเดิมติดลบ (SSSG) ยังคงเป็นจุดอ่อนของ OKJ โดยลดลงจาก 4.95% ในไตรมาส 1/67 เป็น -22.2% ในไตรมาส 1/68 และ -23.0% ในไตรมาส 3/68 เนื่องจากผลกระทบของการใช้จ่ายในประเทศอ่อนแอและการแข่งขันดุเดือดยิ่งขึ้น ทำให้ร้านอาหารส่วนใหญ่มี SSSG ติดลบอย่างมากในช่วง 9 เดือนแรกของปี 68 เพื่อตอบสนองต่อความผิดพลาดนี้ OKJ ได้ริเริ่มและดำเนินการตามกลยุทธ์เพื่อแก้ไขปัญหา -SSSG อย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงการลดขนาดและราคาอาหาร (Single Balance), การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ (Funky Wrap, Fried Fish Miang, Organic Pumpkin Pork Floss Bun, Mangosteen Juice), การจัดโปรโมชั่น (ฉลองครบรอบ 12 ปี ซื้อ 1 แถม 1, จ่าย 1 ได้ 2, Oh! Stamp)

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับลดราคาเป้าหมายจาก 10.4 บาท เป็น 5.9 บาท อ้างอิงจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) ปี 2569 ที่ 17 เท่า เพื่อสะท้อนการปรับลดประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ของเรา 7.3%-15.7% เราเชื่อว่ากลยุทธ หรือความคิดริเริ่มของ OKJ ในการพลิกฟื้น SSSG จะส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทดีขึ้น โดยเริ่มจากการปรับปรุงอัตรากำไร รายได้ที่สูงขึ้น และตำแหน่งแบรนด์ที่แข็งแกร่งขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/68 เข้าสู่ปี 2569

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ย. 68)