
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (5 ธ.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนมีความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและความต้องการพลังงาน รวมถึงความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจจำกัดอุปทานจากรัสเซียและเวเนซุเอลา
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 60.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 49 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 63.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งสองสัญญาปิดตลาดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. และในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้นราว 3% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นประมาณ 1% ทำให้ทั้งสองสัญญาบวกขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง
นักลงทุนประเมินรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ และคาดว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 9-10 ธ.ค.นี้
การใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นปานกลางในเดือนก.ย. หลังจากเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องสามเดือน ซึ่งสะท้อนถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 3 เนื่องจากตลาดแรงงานที่อ่อนแอและค่าครองชีพที่สูงขึ้นจำกัดอุปสงค์ของผู้บริโภค
นักลงทุนประเมินความน่าจะเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด 0.25% ในสัปดาห์หน้าที่ 87% ตามเครื่องมือ CME FedWatch
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนและสหรัฐฯ ได้มีการประชุมทางไกลในวันศุกร์เพื่อหารือด้านการค้า รวมถึงความพยายามดำเนินการตามข้อตกลงในสงครามการค้าระหว่างกัน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาจะพบปะกับผู้นำเม็กซิโกและแคนาดาเพื่อหารือประเด็นการค้าในวันศุกร์ หลังจากทั้งสามชาติมาประชุมกันที่กรุงวอชิงตันเพื่อจับสลากแบ่งสายฟุตบอลโลก 2026 โดยการเจรจาใด ๆ ที่อาจลดความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับชาติอื่น ๆ อาจช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและความต้องการพลังงาน
นักลงทุนยังจับตาข่าวจากรัสเซียและเวเนซุเอลาเพื่อประเมินว่าอุปทานน้ำมันจากสองสมาชิกโอเปกพลัสที่ถูกคว่ำบาตรจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงในอนาคต
ความล้มเหลวในการเจรจาของสหรัฐฯ ในกรุงมอสโกเพื่อหาข้อตกลงสำคัญเกี่ยวกับสงครามยูเครน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความล้มเหลวในการบรรลุความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพยูเครนเป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน แต่ในขณะเดียวกัน การผลิตน้ำมันที่แข็งแกร่งของกลุ่มโอเปกเป็นปัจจัยกดดันตลาด
กลุ่มประเทศ G7 และสหภาพยุโรปกำลังหารือเพื่อแทนที่เพดานราคาส่งออกน้ำมันรัสเซียด้วยการห้ามให้บริการทางทะเลทั้งหมด เพื่อลดรายได้จากน้ำมันที่ช่วยสนับสนุนการทำสงครามของรัสเซียในยูเครน
กลุ่มโอเปกพลัสประกอบด้วยประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร เช่น รัสเซีย โดยข้อตกลงใด ๆ ที่อาจยกเลิกการคว่ำบาตรรัสเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐฯ อาจเพิ่มปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ในตลาดโลก
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียเสนอจัดหาน้ำมันให้กับอินเดีย โดยปูตินและนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียได้ตกลงกันที่จะขยายความร่วมมือด้านการค้าและความมั่นคง
บริษัทกลั่นน้ำมันของรัฐ Indian Oil Corp และ Bharat Petroleum Corp สั่งซื้อน้ำมันรัสเซียสำหรับจัดส่งในเดือนม.ค. จากผู้ผลิตที่ไม่ถูกคว่ำบาตร
ศูนย์ฉุกเฉินท้องถิ่นรายงานว่า การโจมตีด้วยโดรนของยูเครนทำให้เกิดไฟไหม้ที่ท่าเรือเทมริค ริมทะเลอาซอฟของรัสเซีย ท่าเรือนี้รองรับการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว ผลิตภัณฑ์น้ำมัน และปิโตรเคมี รวมถึงธัญพืชและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ
ตลาดยังเตรียมรับมือกับความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะเข้าแทรกแซงทางทหารในเวเนซุเอลา หลังจากทรัมป์ย้ำว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะเริ่มดำเนินการเพื่อหยุดยั้งผู้ค้ายาเสพติดเวเนซุเอลาบนบกในเร็ว ๆ นี้
Rystad Energy ระบุในรายงานว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลต่อการผลิตน้ำมันดิบของเวเนซุเอลา 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่ส่งไปยังจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ธ.ค. 68)





