กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (5 ธ.ค.) ว่า ผู้แทนเจรจาของสหรัฐฯ และยูเครนได้ประชุมหารือกันเป็นเวลา 2 วัน และได้บรรลุกรอบข้อตกลงด้านการจัดการความมั่นคงร่วมกัน
แถลงการณ์ระบุว่า ตลอดระยะเวลา 2 วัน สตีเวน วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษด้านสันติภาพ และจาเร็ด คุชเนอร์ บุตรเขยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้พบกับ รุสเทม อูเมรอฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงและการป้องกันประเทศของยูเครน และพลเอกอันดรีย์ ฮนาตอฟ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพื่อหารืออย่างสร้างสรรค์เกี่ยวกับการผลักดันเส้นทางสู่สันติภาพที่ยั่งยืนและเป็นธรรมในยูเครน
ทั้งสองฝ่ายจัดการประชุมครั้งที่ 6 ในรอบสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอูเมรอฟย้ำว่า ยูเครนให้ความสำคัญสูงสุดกับการบรรลุข้อตกลงที่สามารถปกป้องเอกราชและอธิปไตยของประเทศ คุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน และสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับอนาคตประชาธิปไตยที่มั่งคั่ง
ผู้เข้าร่วมยังได้หารือเกี่ยวกับผลการประชุมล่าสุดระหว่างฝ่ายสหรัฐฯ กับรัสเซีย รวมถึงการเห็นชอบร่วมกันในกรอบการจัดการด้านความมั่นคง และความสามารถในการยับยั้งที่จำเป็นต่อการธำรงไว้ซึ่งสันติภาพระยะยาว
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า ความคืบหน้าที่แท้จริงของข้อตกลงใด ๆ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของรัสเซียในการแสดงความมุ่งมั่นอย่างจริงจังต่อสันติภาพระยะยาว รวมถึงการดำเนินมาตรการลดความตึงเครียดและยุติการสังหารประชาชน
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือแยกต่างหากเกี่ยวกับ “วาระแห่งความเจริญรุ่งเรืองในอนาคต” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูยูเครนหลังสงคราม ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ–ยูเครน และโครงการฟื้นฟูระยะยาว
การเจรจาจะดำเนินต่อในวันนี้ (6 ธ.ค.) ตามแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ โดยก่อนหน้านี้สื่อรายงานว่าการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นที่เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ธ.ค. 68)
