ปรับกฎการซื้อหุ้นคืนของ บมจ.เพิ่มความคล่องตัวในการบริหารทุน

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการว่าด้วยการซื้อหุ้นคืน การจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน และการตัดหุ้นที่ซื้อคืนของบริษัท (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2568 ได้มีผลบังคับใช้แล้วหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา

กฎกระทรวงฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงเกณฑ์การซื้อหุ้นคืนของบริษัทมหาชนจำกัด (บมจ.) ให้มีความยืดหยุ่นและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดทุน โดยมีสาระสำคัญ 2 ประการ คือ 1.ยกเลิกระยะเวลาพักคอย (Breaking Period) จากเดิม บมจ.ต้องรอ 6 เดือนก่อนเริ่มโครงการซื้อหุ้นคืนใหม่ กฎกระทรวงฉบับนี้ปรับปรุงให้สามารถเริ่มโครงการใหม่ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารทุนของบริษัท และ 2.ขยายระยะเวลาการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน จากเดิมบริษัทต้องจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนภายใน 3 ปี หากแต่หลักเกณฑ์ใหม่สามารถขยายกรอบเวลาได้อีก 2 ปี เพื่อให้บริษัทสามารถเลือกช่วงเวลาในการจำหน่ายที่เหมาะสมกับสภาพตลาดได้มากขึ้น

“การแก้ไขเพิ่มเติมครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทมหาชนจำกัดสามารถวางแผนการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินได้มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมสภาพคล่องและศักยภาพของตลาดทุน สร้างประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น ตลาดทุน และเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ พร้อมทั้งลดข้อจำกัดด้านกรอบเวลาการจำหน่ายหุ้นคืนให้บริษัทสามารถขายหุ้นคืนในช่วงเวลาที่เหมาะสมได้มากขึ้น” นายพูนพงษ์ กล่าว

การปรับปรุงกฎกระทรวงครั้งนี้ยังสอดรับกับคำแถลงนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมา และสนับสนุนนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่มุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ทันสมัยและเอื้อต่อการแข่งขัน ผ่านการปรับปรุงกฎระเบียบและกระบวนการอนุญาตให้มีความสะดวก โปร่งใส และเป็นมิตรต่อผู้ประกอบการ เพื่อยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการไทยและขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

“กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังคงมุ่งมั่นลดอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ และสนับสนุนการยกระดับตลาดทุนไทยให้ทันสมัย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ และคาดหวังว่าการปรับปรุงกฎกระทรวงครั้งนี้จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพการบริหารจัดการทุนของบริษัทมหาชนจำกัด และสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนไทยให้มีความมั่นคง โปร่งใส และแข่งขันได้ในระยะยาวต่อไป” นายพูนพงษ์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ธ.ค. 68)