มติรัฐสภา 328 เสียงหนุนกลไกทำรธน.ใหม่ มีกมธ.ร่างรธน.-กมธ.รับฟังความเห็นฯจากรัฐสภาคัดเลือก

การประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเป็นพิเศษ ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ฐานะรองประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ.. ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาแล้วเสร็จ ซึ่งที่ประชุมได้ใช้เวลา เกือบ 3 ชั่วโมง เพื่อพิจารณา ร่างมาตรา 4 ซึ่ง กมธ.เสียงข้างมากเสนอให้มี กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 35 คน ซึ่งรัฐสภาคัดเลือกจากบัญชีรายชื่อของผู้สมัครได้รับเลือกด้วยสูตร 20 หยิบ 1 และ กมธ.รับฟังความคิดเห็นและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 35 คน ซึ่งรัฐสภาคัดเลือกจากบัญชีรายชื่อของบุคคลที่สมัครรับคัดเลือก ด้วยสูตร 20 หยิบ1

เมื่อการอภิปรายแล้วเสร็จ ได้ลงมติ ผลปรากฎว่า มติเสียงข้างมาก 328 เสียง เห็นด้วยกับการแก้ไขของกรรมาธิการเสียงข้างมากที่เสนอให้ที่ประชุมพิจารณา ต่อเสียงไม่เห็นด้วย 266 เสียง และมีผู้งดออกเสียง 21 เสียง

จากนั้นได้เข้าสู่การพิจารณามาร่างมาตราต่อไปซึ่งเป็นรายละเอียดที่เกี่ยวกับที่มาของกมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ และ กมธ.รับฟังความคิดเห็น ทั้งนี้ก่อนเริ่มพิจารณาเนื้อหา นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะกมธ.เสียงข้างน้องที่สงวนความเห็นได้ขอถอนประเด็นที่สงวนไว้ เนื่องจากในร่างมาตราก่อนหน้านั้นแพ้มติเสียงข้างมากของรัฐสภา

*หัวหน้าเท้งออกโรงขอเสียงหนุนฟื้นสภาที่ปรึกษามาจากการเลือกตั้ง

ก่อนลงคะแนนร่างมาตรา 4 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายต่อที่ประชุมรัฐสภา สมัยวิสามัญเป็นพิเศษ ซึ่งพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ.. ที่อยู่ระหว่างการอภิปรายร่างมาตรา 4 ว่าด้วยองค์กรจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาสนับสนุนกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ยึดโยงกับประชาชน ผ่านการสนับสนุนความเห็นที่กมธ.ของพรรคประชาชนสงวนไว้ ที่เสนอให้มีกมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ และสภาที่ปรึกษาการร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อให้เกิดการยึดโยงประชาชน

นายณัฐพงษ์ อภิปรายต่อว่า ทั้งนี้กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อยากได้ที่ไม่มีคนกลุ่มใดที่กินรวบผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญในกระบวนการรต่อไปได้ ต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม และได้ผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญที่ทำให้ประเทศไทยเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยไม่ถอย หลังรวมถึงต้องการปลดล็อคเงื่อนไขแก้รัฐธรรมนูญในอนาคตที่ยืดหยุ่น

“ผมเข้าใจในข้อจำกัดทางการเมืองและสภาพทางการเมืองที่เป็นจริง ทั้งเงื่อนไข ใช้เสียง สว. 1 ใน 3ที่เห็นชอบวาระสาม และเสียงฝ่ายค้าน 20% จึงต้องเป็นตรงกลางที่ทุกฝ่ายเห็นชอบและกรอบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ตอบเกินคำถาม และในกระบวนการสุดท้ายต้องได้เสียงเห็นชอบจากประชาชนในกระบวนการทำประชามติ ดังนั้นต้องฟังเสียงประชาชนว่าต้องการ หรืออยากเห็นอะไรด้วย “ นายณัฐพงษ์ อภิปราย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ธ.ค. 68)