จับตาตลาดหุ้น Election Rally หลังยุบสภา โบรกชี้โอกาสทอง Panic ไล่เก็บ Defensive-Dividend Yield

บล.พาย ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้ประกาศยุบสภาหลังจากนั้นจำเป็นจะต้องจัดการเลือกตั้งภายในช่วง 45-60 วัน คาดการณ์กันว่าช่วงเลือกตั้งจะอยู่ในช่วงปลายสัปดาห์แรกของเดือน ก.พ.69 จากนี้จนถึงกว่าจะได้รัฐบาลใหม่รัฐบาลชุดเดิม แต่อย่างไรก็ตามการออกโครงการต่างๆ ที่เป็นโครงการต่อเนื่องถึงรัฐบาลชุดใหม่จะทำไม่ได้ ดังนั้น เป็นไปได้มาตรการ TISA ที่เคยพิจารณาก็อาจถูกยกเลิกออกไปจนกว่ารัฐมนตรีคลังคนใหม่จะเข้ามาดูแล

ระยะสั้นนักลงทุนอาจมองความไม่แน่นอนของการเมืองเป็นหลักพร้อมกับอาจเลือกขายทำกำไรหุ้นออกมา แต่ก็เชื่อว่าภาวะนี้จะอยู่ไม่นานและนักลงทุนจะกลับมาพิจารณาว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเตรียมออกมาตรการกระตุ้น สถิติที่ผ่านมาตลาดหุ้นมักจะปรับขึ้นก่อนการเลือกตั้งโดยกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนเด่นในช่วงเลือกตั้งทั้งก่อนและหลังเลือกตั้งได้แค่ค้าปลีก สื่อสาร หากระยะสั้นตลาดเกิด อาการ Panic มองเป็นโอกาสเข้าสะสมในหุ้นกลุ่มข้างต้น นอกจากนี้ธนาคารพาณิชย์ก็เป็นอีกกลุ่มที่น่าสนใจด้วยเงินปันผลสูงผสานกับราคาหุ้นไม่แพง

บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุว่า นายกฯ ยื่นทูลเกล้าฯยุบสภาเมื่อวานนี้เพื่อชิงตัดหน้าก่อนฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ และเนื่องจากความขัดแย้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญปมอำนาจ สว.(ต้องใช้เสียง สว. 1 ใน 3 เพื่อผ่านร่างรธน.) ช่วงสุญญากาศจะมีนายกฯ และคณะรัฐมนตรีเดิมเป็นรัฐบาลรักษาการที่มีอำนาจจำกัด ไม่สามารถก่องบผูกพันใหม่ได้ ขณะที่โครงการกระตุ้นรัฐบาล เช่น คนละครึ่งเฟส 2 TISA ซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้า รวมถึงเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ และประมูลโครงการภาครัฐฯ เสี่ยงที่ต้องล่าช้าออกไป

ทั้งนี้ จากสถิติการยุบสภาตั้งแต่ปี 35 มา SET Index มักจะปรับลงในช่วงแรก โดย Downside เฉลี่ยที่ 6.15% หรือเทียบกับ SET Index ลงมาที่ระดับ 1176 จุด แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากตลาดรับรู้อยู่แล้วว่ารัฐบาลนี้จะเป็นรัฐบาลชั่วคราว เราจึงคาดว่าการปรับลงอาจไม่แรงเหมือนในอดีต โดยประเมินแนวรับโซน 1,200-1,230 จุด บน PER69E 13.2 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย -1S.D. น่าจะเป็นแนวรับโซนที่ทยอยสะสม โดยระยะสั้นแนะนำหลบความผันผวนหุ้นในกลุ่ม Defensive และ Dividend Yield อย่างกลุ่ม ร.พ. (BH PR9) กลุ่ม ICT (TRUE ADVANC) กลุ่ม High Yield (BBL TTB BBL) เป็นต้น แต่หากสถานการณ์เริ่มนิ่ง เห็นกรอบ Timeline เลือกตั้งชัดเจน หน้าหุ้นควรไปที่กลุ่มกลุ่มไฟแนนซ์ กลุ่ม ICT กลุ่มค้าปลีกและกลุ่มธนาคาร ต่อการเกิด Election Rally

ด้าน บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง คาดจะส่งผลให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นเร็วกว่าแผนเดิม แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญล่าช้าออกไปเช่นกัน อย่างไรก็ดี การเลือกตั้งที่เร็วกว่าคาด ส่งผลให้โอกาสที่งบประมาณปี 70 มีโอกาสล่าช้าน้อยลงตามไปด้วย เพราะหากอิงการเลือกตั้งตามแผนเดิม (วันที่ 29 มี.ค.69) งบมีโอกาสอาจล่าช้าราว 2 เดือน หากยุบสภาช่วงกลางเดือน ธ.ค.68 จะส่งผลให้การเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นภายในช่วงเดือน ก.พ.69 (คาดภายในวันที่ 8 ก.พ.69) มีโอกาสส่งผลให้งบปี 70 ล่าช้าเพียงครึ่งเดือน-1 เดือน

อย่างไรก็ดี ในระยะสั้นตลาดอาจแกว่งผันผวนได้ จากรัฐบาลรักษาการสามารถผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจำกัด แต่ในระยะข้างหน้าเชื่อตลาดจะให้น้าหนักกับการเลือกตั้งและกระบวนการพิจารณางบปี 70 เป็นหลัก ส่งผลให้ความผันผวนมีจำกัด ทั้งนี้ หากตลาดปรับลง แนะนาอาศัยเป็นจังหวะทยอยเข้าสะสม โดยอิงระดับ Earning Yield Gap 6% หรือคิดเป็นดัชนีที่ 1,236 จุด ซึ่งหากดัชนีปรับลงต่ำกว่าระดับดังกล่าว แนะนำทยอยเข้าสะสม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ธ.ค. 68)