จีนส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 69 แต่เลี่ยงอัดฉีดขนานใหญ่ มุ่งสร้างการเติบโตระยะยาว

จีนส่งสัญญาณว่าจะยังคงเดินหน้าสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีหน้า แต่จะหลีกเลี่ยงการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าจีนกำลังเปลี่ยนท่าทีจากการใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อปกป้องเศรษฐกิจจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ไปเป็นการรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว

ถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (11 ธ.ค.) หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ (Central Economic Work Conference) ระบุว่า คณะผู้นำจีนจะใช้แนวทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและการลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) อย่าง “ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ” เพื่อให้แน่ใจว่ามีสภาพคล่องเพียงพอ และจะรักษาระดับการขาดดุลงบประมาณและการใช้จ่ายของรัฐบาลให้อยู่ในระดับ “ที่จำเป็น” ในปี 2569

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังให้คำมั่นว่าจะ “ให้ความสำคัญอย่างเหมาะสม” ในการจัดการกับภาวะตึงเครียดทางการคลังของรัฐบาลท้องถิ่น และจะเดินหน้าความพยายามในการแก้ไขความเสี่ยงจากหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่นอย่างจริงจัง แต่เป็นไปตาม “ระเบียบ”

ขณะเดียวกัน ผู้กำหนดนโยบายของจีนยังได้เน้นย้ำถึงพันธกิจในการรักษาเสถียรภาพพื้นฐานของอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าจีนไม่ต้องการให้เงินหยวนเคลื่อนไหวฉับพลันหรืออย่างมีนัยสำคัญ แม้จะมีเสียงเรียกร้องมากขึ้นให้จีนเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเงินหยวนเพื่อลดการเกินดุลการค้าขนาดใหญ่และปรับสมดุลไปสู่การบริโภคภายในประเทศ

ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์หลายคนคาดการณ์ว่า รัฐบาลจีนจะกำหนดเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณอย่างเป็นทางการไว้ที่ประมาณ 4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ซึ่งเป็นระดับเดียวกับปี 2568 และเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ธ.ค. 68)