วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างงบกลาโหม 9 แสนล้านดอลล์ ปี 69 จ่อส่งทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมาย

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (17 ธ.ค.) วุฒิสภาสหรัฐฯ เห็นชอบร่างกฎหมายนโยบายป้องกันประเทศ หรือ “กฎหมายว่าด้วยการอนุมัติการป้องกันประเทศสำหรับปีงบประมาณ 2569” (National Defense Authorization Act for Fiscal Year 2026) วงเงิน 9.01 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมส่งต่อให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้ โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 77 ต่อ 20 เสียง ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากสมาชิกทั้งสองพรรคการเมืองใหญ่

โรเจอร์ วิกเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการด้านการทหารแห่งวุฒิสภาสหรัฐฯ ระบุก่อนการลงมติว่า “นี่จะเป็นปีที่ 65 ติดต่อกันที่สภาคองเกรสร่วมมือกันทั้งสองพรรคและทั้งสองสภา เพื่อส่งร่างกฎหมายที่มุ่งธำรงไว้และเสริมสร้างศักยภาพด้านการป้องกันประเทศให้แก่ประธานาธิบดี”

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผู้นำสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาได้เจรจาปรับปรุงเนื้อหาจากร่างกฎหมายของแต่ละสภาจนได้ข้อยุติ ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะลงมติผ่านร่างฉบับประนีประนอมนี้ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน

ร่างกฎหมายที่หนากว่า 3,000 หน้าฉบับนี้ มีสาระสำคัญคือการปรับขึ้นเงินเดือนทหารเกือบ 4% และปฏิรูประบบเพื่อเร่งการจัดซื้ออาวุธของกระทรวงกลาโหม (เพนตากอน) รวมถึงมาตรการพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธ “โกลเดนโดม” (Golden Dome) และการยกระดับความพร้อมรบ

นอกจากนี้ รัฐบาลทรัมป์จะจัดสรรงบประมาณปีละ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นเวลา 2 ปี เพื่อผลิตอาวุธให้แก่ยูเครน พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามลดจำนวนทหารสหรัฐฯ ในยุโรปและเกาหลีใต้ หากยังไม่ได้หารือกับประเทศพันธมิตร

สำหรับงบประมาณเฉพาะด้าน ร่างกฎหมายนี้อนุมัติงบต่อเรือ 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ งบจัดซื้ออากาศยาน 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และอีก 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเร่งกำลังการผลิตยุทโธปกรณ์และเครื่องกระสุน

ในด้านการเปลี่ยนแปลงนโยบาย กฎหมายฉบับนี้สั่งยุบสำนักงานด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม (DEI) ของเพนตากอน พร้อมตัดงบด้านสภาพภูมิอากาศลง 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดจนยกเลิกกฎหมายให้อำนาจทำสงครามอิรักฉบับปี 2534 และ 2545 รวมถึงยกเลิกการคว่ำบาตรต่อซีเรียเป็นการถาวร นอกจากนี้ยังระบุให้ระงับงบเดินทาง 1 ใน 4 ของนายพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จนกว่าเพนตากอนจะส่งวิดีโอต้นฉบับที่ไม่มีการตัดต่อของปฏิบัติการโจมตีเรือต้องสงสัยขนส่งยาเสพติดใกล้ประเทศเวเนซุเอลาให้สภาคองเกรสตรวจสอบ

เฮกเซธเผยเมื่อวันอังคาร (16 ธ.ค.) ว่า จะมีเพียงคณะกรรมาธิการด้านการทหารของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเท่านั้นที่จะได้เห็นวิดีโอฉบับเต็มของเหตุการณ์โจมตีทางอากาศเมื่อวันที่ 2 ก.ย. ในทะเลแคริบเบียน ซึ่งเป็นประเด็นอื้อฉาวเนื่องจากมีการโจมตีซ้ำจนทำให้ผู้รอดชีวิตเสียชีวิต 2 ราย

ทั้งนี้ สมาชิกพรรคเดโมแครตตำหนิร่างกฎหมายนี้ที่ตัดงบสนับสนุนการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) สำหรับกำลังพล ขณะที่สมาชิกพรรครีพับลิกันสายแข็งบางส่วนไม่พอใจที่กฎหมายยังลดภาระผูกพันในต่างประเทศได้ไม่มากพอ อย่างไรก็ตาม คาดว่าปธน.ทรัมป์จะลงนามในกฎหมายดังกล่าวภายในไม่กี่วันข้างหน้า

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ธ.ค. 68)