เลือกตั้ง’69: พรรคภูมิใจไทยเกลี่ยผู้สมัคร สส. ชลบุรีลงตัว ไร้ปัญหาทับซ้อน-แกนนำชทพ.ลงปาร์ตี้ลิสต์

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดตัวผู้สมัคร สส.ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่า ขณะนี้ลงตัวครบหมดแล้วทั้ง 10 เขต

ในส่วน จ.ชลบุรี ทั้ง 10 เขต มีความคาดหวังที่จะนำเสนอให้ประชาชนสนับสนุนทั้ง 10 เขต ผู้สมัครแต่ละคนเป็น สส.อยู่แล้ว และยังมีสมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) เป็นนักการเมืองที่อยู่ทางการเมืองมายาวนาน สำคัญที่สุดคือ ได้รับการสนับสนุนจากนายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำพรรคภูมิใจไทยด้วย ยืนยันว่า พื้นที่ จ.ชลบุรีไม่มีความทับซ้อนกัน ทุกอย่างจบหมดแล้วทุกคนยอมรับในความเหมาะสมของแต่ละคนแล้ว

ส่วนนโยบายของ จ.ชลบุรี จะยึดนโยบายหลักของพรรคภูมิใจไทย คือ พูดแล้วทำ ตามที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยได้พูดมาตลอด และอย่างที่รู้ว่า คนที่มาเป็นกลุ่มบ้านใหญ่ทั้งนั้น มีพลังในการเมืองท้องถิ่นและระดับชาติ

เช่นเดียวกับที่ จ.ระยอง ตราด เพชรบุรี และราชบุรี ส่วนที่ จ.จันทบุรี ตนได้ทำหน้าที่ประสานและไปดูเต็มตัว, ทีม จ.นครศรีธรรมราช น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล อดีต รมว.อุตสาหกรรม อยู่กับตน, จ.สุราษฎร์ธานี 2 เขตที่ตนดูแลก็มาแล้ว, จ.นราธิวาส 1 เขตก็มาแล้ว ซึ่งผู้สมัครที่ตนดูแลทั้งหมดประมาณ 20 คน คิดว่าเผื่อเหลือ เผื่อขาด น่าจะได้ประมาณ 16-17 คน

“หากจะมีการลดหายไป 10-20% ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะสถานการณ์ 1-2 เดือนอะไรก็เกิดขึ้นได้ อาจเป็นจังหวะที่นายกฯ มีความนิยมขึ้นมา พีคสุด ๆ อาจได้ครบเลย ทุกอย่างเป็นไปได้หมด” นายสุชาติ กล่าว

ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ระหว่างกระแสกับบ้านใหญ่ น้ำหนักจะไปทางไหน นายสุชาติ กล่าวว่า ถ้าดูจากการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมา เราเชื่อว่าชาวบ้านรับทราบได้แล้วว่ากระแสจับต้องไม่ได้เป็นอากาศ แต่สิ่งที่จับต้องได้คือตัวแทนของเรา จึงเชื่อว่า ความนิยมของการจัดตั้งคะแนนเดิมบ้านใหญ่ที่เป็นที่พึ่งพาพึ่งพิงมายาวนานของประชาชนร่วม 20 ปี ที่ประชาชนจับต้องได้มีคุณค่ามากกว่ากระแสที่เดี๋ยวมาเดี๋ยวไป

กรณีการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมากระแสพรรคก้าวไกลมาในช่วงของสองสัปดาห์สุดท้ายจนได้ สส.ในชลบุรีไปจำนวนมากนั้น การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาบริบทต่างออกไป เพราะมีการแข่งขันของกลุ่มที่มีพลังทางการเมืองทั้งบ้านใหญ่บ้านรอง มีพรรคการเมืองหลายพรรค และในชลบุรีเราคุยกันแล้วว่าเราทำเพื่อคนชลบุรี มีการเรียกร้องจากผู้นำในอดีต ทั้งอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ อดีตผู้นำขอให้บ้านใหญ่ในชลบุรีรวมกันเพื่อให้ชลบุรีเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ให้เหมือนกับบางจังหวัดที่มีหลายพรรคการเมืองจะไม่มีการพัฒนา ถดถอยหมดเพราะจะมีทั้งฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล ไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน แต่ชลบุรีเป็นหนึ่งเดียวมากว่า 20 ปี จึงมีการพัฒนาในทิศทางเดียวกัน การเมืองเราต้องทำให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด อยากให้มองพรรคการเมืองไหนจับต้องได้ พูดแล้วทำ ก็ให้เลือกพรรคการเมืองนั้น และวันนี้ตนเชื่อว่ากระแสมัน จับต้องไม่ได้ แต่สิ่งที่จับต้องได้เมื่อประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมก็จะโทรไปหาผู้แทนเราก็จะชี้ช่องทางที่ถูกต้องว่า หากเกิดปัญหาแบบนี้จะไปพบใคร หากไม่ได้รับความเป็นธรรมเราก็ต้องไปทำหน้าที่เป็นปากเสียงให้เขา

“ส่วนตัวเชื่อว่ากระแสไม่มี ประชาชนรู้อยู่แล้วว่าต้องเลือกผู้แทนมาใช้งาน ไม่ใช่เลือกผู้แทนมาใช้เรา นี่คือความยั่งยืนที่ตายตัวทางการเมือง” นายสุชาติ กล่าว

 

แกนนำ ชทพ. “วราวุธ-เผดิมชัย-กนก-นิกร” ลงปาร์ตี้ลิสต์

ขณะที่นายนิกร จำนง อดีตผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชพน.) กล่าวถึงการวางตัวลงสมัครรับเลือกตั้งหลังย้ายเข้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา, นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์, นายกนก วงษ์ตระหง่าน และตน ได้แสดงเจตจำนงที่จะลงสมัครเป็น สส.แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกรรมการบริหารฯ และยังประเมินไม่ได้ว่าจะอยู่ในลำดับบัญชีรายชื่อเท่าใดจึงจะมีโอกาสได้รับเลือกตั้งเป็น สส.

ส่วนอดีต สส.เขตที่ย้ายมาจาก ชพน.นั้นได้แสดงเจตจำนงไปแล้วว่าจะลงสมัครในเขตเดิม ทั้ง จ.สุพรรณบุรี, นครปฐม และ ร้อยเอ็ด ส่วนแนวทางการหาเสียงในพื้นที่ต้องรอฟังนโยบายจากกรรมการบริหารฯ อีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมเพื่อชี้แจงรายละเอียดเร็ว ๆ นี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ธ.ค. 68)