กทพ.-กฟภ.-กปภ.-NT ร่วมศึกษาผลักดันทางด่วนเชื่อมสมุย 5.5 หมื่นลบ. บูมศก.-ท่องเที่ยว

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือการดำเนินโครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย เพื่อรองรับระบบสาธารณูปโภคของหน่วยงานสาธารณูปโภค ร่วมกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) และบมจ. โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม เป็นประธาน

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า การลงนาม MOU ในวันนี้ เป็นการแสดงเจตนารมณ์ความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐในการบูรณาการการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะโครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย ซึ่งมีศักยภาพในการเป็นโครงข่ายหลักด้านคมนาคมควบคู่กับการรองรับระบบสาธารณูปโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต การท่องเที่ยว และการพัฒนาพื้นที่ในระยะยาว

โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย เป็นโครงการที่มีศักยภาพในการเชื่อมโยงกับพื้นที่ อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี, อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช มีระยะทางประมาณ 37 กม. วงเงินลงทุนกว่า 5.5 หมื่นล้านบาท โครงการนี้จะมีการนำท่อประปา สายไฟฟ้า สายโทรคมนาคม รวมไปกับโครงสร้างสะพาน เพื่อความปลอดภัยมากกว่าการทำท่อประปา ไฟฟ้า และสายสื่อสาร ลอดใต้ทะเลที่มีความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ อาทิ พายุต่างๆ หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากสมอเรือ และยังทำให้การสัญจรไปมาสะดวกขึ้น จากปัจจุบัน จาก อ.ดอนสัก ไปยังเกาะสมุย ใช้เรือเฟอร์รี่เป็นหลัก ใช้ระยะเวลาเดินทางมาก และมีข้อจำกัดในการเดินทางช่วงกลางคืนและช่วงที่มีมรสุม

“ส่วนตัวมีข้อห่วงใยฝากให้ กทพ.คำนึงถึงการออกแบบที่มีความแข็งแรงรองรับช่วงเกิดมรสุม รวมไปถึงการปิดใช้ ในช่วงฤดูมรสุมหรือไม่ เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ ให้ประเมินปริมาณจราจรบนเกาะสมุย ว่าจะเกิดความแออัดมากขึ้นแค่ไหน ไม่ควรให้ซ้ำรอย ปัญหารถติดเหมือนที่จังหวัดภูเก็ต ควรหารือกับกรมทางหลวง เพื่อวางแผนเพิ่มเส้นทางจราจร รองรับ รวมถึง การเชื่อมโยงจากเกาะสมุยไปยัง เกาะพะงันและเกาะอื่นๆไว้ด้วย”นายพิพัฒน์กล่าว

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ทางด่วนเชื่อมเกาะสมุย จะเป็นโครงการที่สร้างการท่องเที่ยวใหม่ ๆ ให้กับพื้นที่บนฝั่งโดยเฉพาะที่ อ.ขนอม จ.สุราษฏร์ธานี และอ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากการเดินทางมายังเกาะสมุยมีความคล่องตัวมากขึ้น ทำให้สร้างเศรษฐกิจและสร้างรายได้เพิ่มกับทั้งที่พัก และโรงแรมบนฝั่ง

นอกจากนี้ คาดว่าจะทำให้มีนักท่องเที่ยวทางอากาศเพิ่มจากสนามบินที่ใกล้เคียง 2 แห่ง คือ สนามบินสุราษฎร์ธานีและสนามบินนครศรีธรรมราช ซึ่งให้กรมท่าอากาศยาน เตรียมแผนพัฒนาขยายขีดความสามารถ โดยเฉพาะการขยายความยาวรันเวย์เพื่อรองรับเครื่องบินลำใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าฯ กทพ. กล่าวว่า ความร่วมมือของ 4 หน่วยงาน จะช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงาน ลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อน หากประเมินต้นทุน สายเคเบิลใต้น้ำ เฉลี่ย 20-30 กม.อยู่ที่ 4,000-5,000 ล้านบาท หากนำสายเคเบิลมาวางบนสะพานจะคิดเพียงค่าใช้พื้นที่ในอัตราราชการ

ทั้งนี้ กทพ.ได้รับโอนโครงการสะพานเชื่อมเกาะสมุย จากกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เมื่อปี 2565 เพราะโครงการมีค่าก่อสร้างสูง หากลงทุนโดยหน่วยงานรัฐจะกระทบงบประมาณ จึงปรับแนวคิดเป็นทางด่วน ใครใช้ใครจ่าย โดยได้ศึกษาความเหมาะสม (feasibility study) โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย มีระยะทางประมาณ 37.41กม. มูลค่าลงทุน 55,000 ล้านบาท คาดสรุปผลศึกษา ในเดือน ม.ค. 69

จากนั้นจะศึกษารูปแบบการลงทุนและการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งมีความอ่อนไหวในด้านการใช้พื้นที่ป่าไม้และการก่อสร้างใกล้แนวเขตปะการัง คาดว่า จะสามารถเสนอให้ที่ประชุมครม.อนุมัติโครงการได้ ช่วงปลายปี 2569 เริ่มกระบวนการประมูล ในปี 2571 ก่อสร้างในปี 2572 คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2576

นายสุรเชษฐ์กล่าวว่า สำหรับรูปแบบ ป็นเอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP : Public Private Partnership) ส่วนระยะเวลาอยู่ระหว่างการศึกษา แต่รูปแบบน่าจะเป็น Net Cost (เอกชนเป็นผู้ลงทุนและบริหารโครงการทั้งหมด รวมถึงรับความเสี่ยงด้านรายได้เอง) เพราะต้นทุนสูง โดยประเมินเก็บค่าผ่านทาง 1,000 บาท/คัน

นายมงคล ตรีกิจจานนท์ ผู้ว่าฯ กฟภ. กล่าวว่า การลงนาม MOU โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความมั่นคงของระบบสาธารณูปโภค โดยเฉพาะด้านพลังงานไฟฟ้า

ที่ผ่านมาเกาะสมุยเคยประสบปัญหาไฟฟ้าดับจากความเสียหายของระบบสายส่งใต้น้ำ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงและซ่อมบำรุงได้ยากโครงการนี้จะเปิดโอกาสให้สามารถวางระบบสายส่งไฟฟ้าหลักบนโครงสร้างสะพานทางพิเศษที่มีความปลอดภัยและเสถียรมากขึ้น ช่วยลดการลงทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการสาธารณูปโภคอย่างเป็นระบบ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคพร้อมสนับสนุนระบบไฟฟ้าที่มั่นคง

นายจักรพงศ์ คำจันทร์ ผู้ว่าฯ กปภ. กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจะเอื้อให้สามารถวางระบบท่อ ส่งน้ำประปาขนาดใหญ่ผ่านโครงสร้างทางพิเศษได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพลดความซ้ำซ้อนในการลงทุนและเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน การประปาส่วนภูมิภาคพร้อมสนับสนุนการพัฒนาระบบน้ำที่มั่นคง และรองรับการเติบโตของเกาะสมุยในอนาคต

พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ NT กล่าวว่า เกาะสมุยเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกที่จำเป็นต้องมีระบบสื่อสารโทรคมนาคมที่มีเสถียรภาพและทันสมัย ปัจจุบันบางพื้นที่ยังประสบปัญหาสัญญาณไม่เสถียรจากข้อจำกัดของโครงสร้างพื้นฐานเดิมและปริมาณ การใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุยจะเอื้อให้ NT สามารถวางโครงข่ายสื่อสารความเร็วสูงบนโครงสร้างสะพานที่มีความมั่นคงและปลอดภัย รองรับเทคโนโลยีอนาคต อาทิ 5G, Smart City, Smart Tourism และบริการดิจิทัลต่าง ๆ NT พร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับระบบสื่อสารของเกาะสมุยให้มีความเสถียร ทันสมัยและรองรับประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ธ.ค. 68)