
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนกว่า 30,000 คน ภายใต้คำถามสำคัญที่ว่า “ประเทศไทยจะไม่ทนกับอะไร?” ซึ่งคำตอบที่ได้รับนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลขสถิติ แต่คือ “เรื่องราวชีวิตจริง” ที่สะท้อนถึงความหวังและความเจ็บปวดของคนไทยในหลากหลายมิติ
โดยหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถ่ายทอดเสียงสะท้อนที่น่ารับฟัง อาทิ เสียงจากผู้ปกครองที่ส่งเสียบุตรหลานจนจบการศึกษา แต่ต้องพบกับอุปสรรคในการหางานจากระบบเส้นสายที่ทำลายโอกาสของผู้มีความสามารถ
เสียงจากผู้ประกอบการที่แบกรับต้นทุนแฝงจากการทุจริตเชิงนโยบายและการเรียกรับผลประโยชน์
เสียงจากกลุ่มเปราะบางเช่น ผู้สูงอายุที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี (Scammer)
นายอภิสิทธิ์ วิเคราะห์อย่างตรงไปตรงมาว่า ปัญหาเชิงโครงสร้างเหล่านี้มีรากเหง้ามาจากการ “ทุจริตคอร์รัปชัน” และ “ระบบอุปถัมภ์” ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาสินค้าเกษตรหรือคุณภาพการศึกษา ทั้งหมดล้วนต้องการการแก้ไขที่ต้นเหตุคือ “จริยธรรมทางการเมือง”ร่วมมือกันสร้างการเปลี่ยนแปลง
ในตอนท้าย นายอภิสิทธิ์ ได้เสนอแนะแนวทางที่สร้างพลังบวก โดยเน้นย้ำว่า “นักการเมืองต้องร่วมมือกับประชาชน ใช้โอกาสจากการเลือกตั้งเป็นเครื่องมือสื่อสารว่าเราจะไม่ยอมรับระบบเดิมๆ อีกต่อไป เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเพียงแค่ ‘ทนหายใจ’ ไปวันๆ แต่ร่วมกันสร้างอนาคตที่มีศักดิ์ศรีและเท่าเทียม”กองทุนตราสารหนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ธ.ค. 68)





