
เมื่อเวลา 11.29 น.
PTTGC บวก 4.06% เพิ่มขึ้น 0.80 บาท มาที่ 20.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 385.28 ล้านบาท
IVL บวก 3.27% เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มาที่ 15.80 บาท มูลค่าการซื้อขาย 276.40 ล้านบาท
SCC บวก 1.92% เพิ่มขึ้น 3.50 บาท มาที่ 186.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 296.75 ล้านบาท
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นต่อปี 69 ในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี เนื่องจากคาดว่าอุตสาหกรรมปิโตรเคมีมีโอกาส Bottom ในปีนี้ และเข้าสู่การฟื้นตัวในปีหน้าแบบค่อยเป็นค่อยไปในปีหน้าแต่จะฟื้นตัวอย่างโดดเด่นได้ หากกรณีสงครามในยูเครนได้ข้อยุติและกลับเข้าสู่ความสงบจะส่งผลบวกต่อความต้องการใช้ปิโตรเคมีให้เพิ่มมากขึ้น
โดยทิศทางราคาพลังงาน ปิโตรเคมีปี 69 ผสมผสานประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย US$65/bbl ลดลง YoY จากอุปทานส่วนเกิน ค่าการกลั่นประคองตัว YoY ในระดับแข็งแกร่ง โดยเฉพาะกลุ่มน้ำมันขั้นกลางช่วงต้นปี ขณะที่ส่วนต่างราคาปิโตรเคมียังอยู่ระดับต่ำ แต่เทียบปี 68 คาดฟื้นตัวจากฐานต่ำแบบค่อยเป็นค่อยไป จากการเริ่มเห็นการผิดโรงงานที่ประสิทธิภาพต่ำในต่างประเทศ
โดยคงน้ำหนักการลงทุนกลุ่ม Energy เท่ากับตลาด ผลประกอบการมีแรงหนุนจากปัจจัยเฉพาะตัว และการบริหารจัดการภายใน หากสงครามยูเครนคลี่คลาย เราคาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกสำคัญต่อกลุ่มปิโตรเคมี จาก 1. ต้นทุนวัตถุดิบลดลงตามราคาน้ำมัน 2.ความต้องการใช้ปิโตรเคมีในภาคการก่อสร้าง เช่น ท่อน้ำ ถังเก็บน้ำ สายไฟ ฯลฯ (PE PVC) เบื้องต้นคาดเพิ่มขึ้น 1-5 ล้านตัน/ปี ช่วยดูดซับอุปทานส่วนเกิน และเป็น Upside ที่ไม่รวมในสมมติฐาน
ขณะเดียวกันกลุ่มฯ มีความน่าสนใจจากการเป็น Value Play ที่มูลค่าหุ้นไม่แพง และเงินปันผลอยู่ในระดับดี
PTT เป็น Top Pick (“ซื้อ” ราคาเหมาะสม 37.50 บาท) จากจุดเด่นด้านเสถียรภาพของผลประกอบการ เงินปันผลสูงสม่ำเสมอ โอกาสได้ Sentiment บวกจากโครงการกระตุ้นการออมของภาครัฐในอนาคต
กลุ่มปิโตรเคมีเป็นหุ้นม้ามืด หากสงครามคลี่คลาย และปรับเพิ่มคำแนะนำหุ้น PTTGC SCC IVL PTG SPRC เป็น “ซื้อ” และปรับเพิ่มราคาเหมาะสมของ TOP SPRC
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ธ.ค. 68)





