
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.07 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวานที่ระดับ 31.12 บาท/ดอลลาร์
เช้านี้ เงินบาทและสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาคเคลื่อนไหวแข็งค่า ตามดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อคืนนี้ แม้ตัวเลข GDP ไตรมาส 3/68 ของสหรัฐฯ จะออกมาดีกว่าคาด แต่ตลาดยังคงมองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังมีโอกาสลดดอกเบี้ยในปีหน้า
“เงินบาทที่ระดับ 31.07 บาท/ดอลลาร์ ยังคงเป็นระดับที่แข็งค่าสุดในรอบ 4 ปีครึ่ง” นักบริหารเงิน ระบุ
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ต้องติดตามคืนนี้ คือ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
อย่างไรก็ดี ธุรกรรมในช่วงนี้ค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากหลายประเทศเริ่มหยุดฉลองเทศกาลคริสต์มาสแล้ว ส่วนปัจจัยในประเทศช่วงนี้ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 31.00 – 31.20 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 155.68 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 155.92 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1800 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1785 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.138 บาท/ดอลลาร์
- ปลัดกระทรวงการคลัง เผยเงินบาทแข็งค่ามากสุดในรอบ 4 ปีครึ่ง โดยตั้งแต่ต้นปี 68 เงินบาทแข็งค่าขึ้น 9.4% เทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ และแข็งค่าขึ้น 4.2% ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ และมีการขายเงินตราต่างประเทศของกลุ่มบริษัททองคำ หลังราคาทองคำปรับสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
- คลัง-ธปท.-ก.ล.ต. หารือมาตรการบริหารบาทแข็ง ออกมาตรการคุมเข้มค้าทองคำสั่งรายงานข้อมูลซื้อขาย เตรียมให้สรรพากรพร้อมศึกษาเก็บภาษีเฉพาะ ให้อำนาจ ธปท.กำหนดเพดานการซื้อขายแต่ละวัน หลังพบขาใหญ่ซื้อขายวันละ 100-1,000 ล้านบาท ในลักษณะเก็งกำไร
- นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กังวลเงินบาทแข็งเกินจริง สวนทางเศรษฐกิจไทยโตต่ำ หลุดกรอบ 30 บาท/ดอลลาร์ ฉุดขีดแข่งขันด้านราคาภาคท่องเที่ยวไทย สินค้าบริการแพงขึ้นในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ หวังต่างชาติเยือนไทยปี 69
แตะ 39 ล้านคน - ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (23 ธ.ค.) เนื่องจากตลาดยังคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในปีหน้า แม้สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 3/68
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 4,500 ดอลลาร์ในวันอังคาร ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
- นักลงทุนพากันลดน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนม.ค. 69 หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
- ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 15.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.25-3.50% ในการประชุมเดือนม.ค. จากเดิมที่ให้น้ำหนัก 24.4% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/68 เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 4.3% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.2% โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการขยายตัว 3.0% ในไตรมาส 4/68
- Conference Board เผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลง 3.8 จุด สู่ระดับ 89.1 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 91.7
- ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติประจำทำเนียบขาว และที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยล่าช้าเกินไป แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวในไตรมาส 3/68 สูงเกินคาดก็ตาม
- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะเปิดเผยวันนี้ ได้แก่ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุม และสหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ธ.ค. 68)





