ไทย-กัมพูชา: กองทัพ ซัด! กัมพูชาไม่จริงใจ หยุดยิงแค่ลมปาก แม้วงประชุม GBC เริ่มต้นแล้ว

พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ (ภาพ: thaigov.go.th)

พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงจุดยืน 5 ประการของไทย ในการแถลงของศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 24 ธ.ค.68 ประกอบด้วย 1.ความชอบธรรม 2.มนุษยธรรม 3.ความโปร่งใส 4.การสื่อสารที่ทันเหตุการณ์ในทิศทางเดียวกัน 5.การสร้างความเชื่อมั่นและขวัญกำลังใจ ซึ่งเป็นจุดยืนที่แตกต่างจากฝ่ายกัมพูชาอย่างสิ้นเชิง ทั้งเรื่องหลักมนุษยธรรม การใช้ทุ่นระเบิดที่ผิดละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศ การใช้โบราณสถานเป็นที่มั่นทางการทหาร การใช้พื้นที่ของพลเรือนเป็นที่มั่นทางทหาร หรือโล่มนุษย์

สำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 3 ได้เริ่มขึ้นแล้ว ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด จ.จันทบุรี โดยช่วงวันที่ 24-26 ธ.ค.68 จะเป็นการประชุมของฝ่ายเลขาฯ หลังจากนั้น ในช่วงเช้าวันที่ 27 ธ.ค.68 จะเป็นการประชุมระหว่าง รมว.กลาโหม ของทั้ง 2 ประเทศ

“การประชุมจะประสบสำเร็จหรือไม่ขึ้น อยู่กับกัมพูชา เพราะเป็นฝ่ายที่ทำให้เหตุการณ์ปะทุเกิดขึ้น กัมพูชาต้องแสดงความจริงใจอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่กล่าวจริงใจเพียงวาจา ต้องแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน” พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าว

 

สำหรับสถานการณ์ล่าสุด บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

23 ธ.ค.68

  • เวลา 15.00 น. ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากโจมติทหารไทย บริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่งผลให้มีทหารไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 นาย เป็นรายที่ 23 และบาดเจ็บ 4 นาย
  • เวลา 17.00 น. ฝ่ายกัมพูชาระดมยิง BM-21 เข้าใส่พื้นที่อุทยานแห่งชาติฯ (ผามออีแดง) อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ส่งผลให้ที่ทำการอุทยานฯ เสียหาย

24 ธ.ค.68

  • เวลา 10.15 น. ฝ่ายกัมพูชาระดมยิง BM-21 จำนวนมากกว่า 80 ลูก เข้าใส่พื้นที่บริเวณบ้านคลองแผง อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว หลังถูกฝ่ายไทยผลักดันออกจากพื้นที่

“ฝ่ายกัมพูชาก็ยังระดมโจมตีด้วยอาวุธหนักอยู่เสมอ ถ้ามีความจริงใจ ก็ควรจะหยุด ทั้งที่มีเวทีในการเจรจาแล้ว” พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าว

ส่วนสถานการณ์ในศูนย์พักพิงชั่วคราว 779 แห่ง มีประชาชนเข้าใช้บริการ 150,529 คน มีประชาชนเสียชีวิตทางอ้อมจากเหตุการณ์ฯ 41 คน และเสียชีวิตจากการถูกโจมตี 1 คน บาดเจ็บจากการถูกโจมตี 13 คน โรงพยาบาลได้รับผลกระทบ 18 แห่ง และ รพ.สต.ได้รับผลกระทบ 240 แห่ง

ขณะที่ พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ขณะนี้มีพื้นที่ที่สามารถควบคุมได้เพิ่มมากขึ้น ส่วนพื้นที่บริเวณภูมะเขือ-ห้วยตามาเรีย ยังมีปะทะเข้มข้นต่อเนื่อง มีการโจมตีอยู่ สำหรับพื้นที่ที่ควบคุมได้แล้ว ทางไทยได้ตรวจสอบพบการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลจำนวนมาก และดัดแปลงอาวุธที่เป็นอันตรายสูง ถือว่ากัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวาชัดเจน ซึ่งหลักฐานที่พบนี้ จะนำไปชี้แจงให้นานาชาติรับทราบ

ส่วนพื้นที่ จ.สระแก้ว ยังมีปะทะอย่างต่อเนื่อง จึงขอความร่วมมือประชาชน-เด็ก ในอาศัยอยู่ใกล้บริเวณพื้นที่การสู้รบให้อพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว และขอให้ติดตามข่าวสาร และประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

 

ด้าน นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ที่ผ่านมา กระทรวงต่างประเทศได้ดำเนินการชี้แจงข้อเท็จจริงต่อประชาคมโลกในหลายเวที และขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาหารือกับกัมพูชาเรื่องหยุดยิงในกรอบ GBC ซึ่งไทยขอยืนยันจุดยืนต่อประชาคมโลกว่ามีความปรารถนาสันติภาพมาโดยตลอด แต่มีความจำเป็นต้องดำเนินมาตรการตอบโต้การโจมตีของกัมพูชาเพื่อปกป้องอธิปไตย และต้องการเห็นความจริงใจของกัมพูชาในเรื่องหยุดยิง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและปฏิบัติได้

โดยในช่วงบ่ายวันนี้ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ จะได้ประชุมเอกอัครราชทูต และกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก เพื่อให้นโยบายในการชี้แจงและทำความเข้าใจกับมิตรประเทศ ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชา

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ธ.ค. 68)