
จากการติดตามข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยาและการระบายอากาศ พบว่าในช่วงวันที่ 28 ธ.ค. 68- 3 ม.ค. 69 กรุงเทพมหานคร (กทม.) มีแนวโน้มเข้าสู่ช่วง ความเสี่ยงต่อการสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จากสภาวะอากาศปิด อัตราการระบายอากาศต่ำ และความเร็วลมอ่อน โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนถึงช่วงเช้า ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นได้ หากมีแหล่งกำเนิดมลพิษเพิ่มเติมในช่วงเวลาดังกล่าว
เพื่อเป็นการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ
กรุงเทพมหานคร จึงขอความร่วมมือประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการทุกภาคส่วน งดการเผาในที่โล่งทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการเผาเศษวัสดุทางการเกษตร การเผาขยะ หรือการเผาอื่นใดที่ก่อให้เกิดควันและฝุ่นละออง ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. 68 -3 ม.ค. 69
พร้อมกันนี้ กรุงเทพมหานครได้ประสานขอความร่วมมือไปยัง จังหวัดในพื้นที่ต้นทางลมและจังหวัดใกล้เคียง ให้ร่วมกันงดการเผาในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างเคร่งครัด เนื่องจากสภาพลมและบรรยากาศในช่วงนี้เอื้อต่อการพัดพาและการสะสมของฝุ่นละอองเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ขณะเดียวกัน กรุงเทพมหานครได้ดำเนินมาตรการ ควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษภายในพื้นที่เมืองอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง อาทิ
- ยกระดับมาตรการเขตมลพิษต่ำ (Low Emission Zone: LEZ) ครอบคลุมทั้ง 50 เขต เพื่อจำกัดการปล่อยมลพิษจากยานพาหนะขนาดใหญ่ในช่วงสถานการณ์ฝุ่นเสี่ยง
- ขับเคลื่อนโครงการ Green List และ Green List Plus ส่งเสริมให้รถบรรทุกและรถใช้งานเชิงพาณิชย์เข้ารับการบำรุงรักษา เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และไส้กรองอากาศ ลดการปล่อยควันดำจากแหล่งกำเนิดในเมือง
- บังคับใช้มาตรฐานควันดำไม่เกิน 20% จากเดิม 30% พร้อมสุ่มตรวจรถในไซต์ก่อสร้าง สถานประกอบการ และรถบรรทุกอย่างต่อเนื่องในช่วงฤดูฝุ่น
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ยังคงยึดแนวทางการบริหารจัดการฝุ่นแบบบูรณาการและความร่วมมือข้ามจังหวัด โดยใช้ข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยาและคุณภาพอากาศเป็นฐานในการตัดสินใจเชิงป้องกัน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ทวีความรุนแรงในช่วงเวลาที่มีความเปราะบางสูง
กรุงเทพมหานคร จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเผาในที่โล่งและการปล่อยมลพิษอย่างต่อเนื่อง เพื่อคุ้มครองสุขภาพของประชาชนและประโยชน์สาธารณะโดยรวม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ธ.ค. 68)




