จีนสั่งลดนักท่องเที่ยวไปญี่ปุ่น 40% เซ่นปมถ้อยแถลงทาคาอิจิ

แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเปิดเผยเมื่อวานนี้ (25 ธ.ค.) ว่า จีนได้เรียกร้องให้บริษัทท่องเที่ยวภายในประเทศลดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปญี่ปุ่นลง 40% ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างจีนและญี่ปุ่นจากถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ เกี่ยวกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นกับไต้หวัน

แหล่งข่าวระบุว่า บริษัทท่องเที่ยวรายใหญ่ในจีนได้รับคำสั่งในช่วงปลายเดือนพ.ย.ให้ลดจำนวนการยื่นขอวีซ่าเดินทางไปญี่ปุ่นลง 40% หลังจากทาคาอิจิกล่าวในรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 พ.ย. โดยระบุเป็นนัยว่า การโจมตีไต้หวันอาจถือเป็นสถานการณ์คุกคามต่อการอยู่รอด ของญี่ปุ่น จนต้องพิจารณาใช้กองกำลังป้องกันตนเอง

ในช่วงกลางเดือนพ.ย. รัฐบาลจีนได้เรียกร้องให้พลเมืองหลีกเลี่ยงการเดินทางไปญี่ปุ่น โดยระบุว่าถ้อยแถลงของทาคาอิจิได้ทำลายบรรยากาศของการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน และเพิ่มความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของชาวจีนในญี่ปุ่น

ทั้งนี้ ชาวจีนจำเป็นต้องขอวีซ่าเพื่อเดินทางไปญี่ปุ่น และต้องยื่นคำร้องผ่านบริษัทท่องเที่ยวที่ได้รับการแต่งตั้งในจีน

ตามรายงานของสื่อจีนระบุว่า เที่ยวบินจากจีนไปญี่ปุ่นมากกว่า 1,900 เที่ยวบิน หรือกว่า 40% ของจำนวนทั้งหมด ถูกยกเลิกในเดือนธ.ค. ขณะที่ในเดือนม.ค. จะมีการยกเลิกเที่ยวบินอีก 2,195 เที่ยวบิน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 40% เช่นกัน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน อย่างไรก็ตาม สื่อระบุว่า ญี่ปุ่นไม่ได้ติด 10 อันดับจุดหมายปลายทางต่างประเทศยอดนิยมในช่วงวันหยุดฤดูหนาวระหว่างเดือนม.ค. และก.พ. ปีหน้า

ข้อมูลสถิติของญี่ปุ่นแสดงให้เห็นว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนเพิ่มขึ้นเพียง 3.0% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ลดลงอย่างมากจากที่เพิ่มขึ้น 22.8% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นผลจากคำเตือนการเดินทางที่รัฐบาลจีนประกาศออกมา

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ธ.ค. 68)