
ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (26 ธ.ค.) โดยถึงแม้ว่าปริมาณการซื้อขายจะเบาบางเนื่องจากตลาดหลายแห่งยังคงปิดทำการในเทศกาลคริสต์มาส แต่นักลงทุนยังคงเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงในสัปดาห์นี้ ซึ่งทำให้ภาวะการซื้อขายในช่วงปลายปีมีแนวโน้มที่จะเป็นไปอย่างคึกคัก
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 50,916.93 จุด เพิ่มขึ้น 509.14 จุด หรือ +1.01% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,952.09 จุด ลดลง 7.53 จุด หรือ -0.19%
ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้น 0.41%
ตลาดหุ้นฮ่องกงและออสเตรเลีย รวมทั้งตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในยุโรป ยังคงปิดทำการในวันนี้ เนื่องในเทศกาลคริสมาส
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในเอเชียวันนี้ กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เงินเฟ้อของกรุงโตเกียวชะลอตัวลงมากกว่าคาดในเดือนธ.ค. เนื่องจากแรงกดดันจากราคาอาหารและพลังงานชะลอตัวลง
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ของ BOJ ซึ่งทำให้ BOJ ยังคงมีแนวโน้มที่จะดำเนินนโยบายคุมเข้มการเงินต่อไป ด้านนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในทุก ๆ ประมาณ 6 เดือน โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยสุดท้าย (Terminal Rate) ของ BOJ จะอยู่ที่ 1.25% ซึ่งหมายความว่า BOJ อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกประมาณ 2 ครั้งในวัฏจักรนี้
ขณะที่กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ปรับตัวลดลง 2.6% เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้รับแรงกดดันจากการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนและเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ลดลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ธ.ค. 68)





