
กระทรวงข้อมูลและสถิติของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า จำนวนการบุกรุกทางไซเบอร์ เช่น การแฮกข้อมูลและการโจมตีแบบ DDoS เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การโจมตีแบบ DDoS (Distributed Denial of Service) คือ การโจมตีทางไซเบอร์ที่ผู้ไม่หวังดีใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ติดมัลแวร์จำนวนมาก ส่งข้อมูลหรือคำขอเข้าไปยังเว็บไซต์หรือเซิร์ฟเวอร์เป้าหมายพร้อมกันอย่างท่วมท้น ทำให้เซิร์ฟเวอร์รับภาระหนักจนล่ม ไม่สามารถให้บริการผู้ใช้งานจริงได้ หรือทำงานได้ช้าลงอย่างมาก ซึ่งเป็นการปฏิเสธการให้บริการ (Denial of Service) แบบกระจายตัวจากหลายแหล่ง
กระทรวงฯ ระบุว่า ในปี 2567 จำนวนเหตุอาชญากรรมดังกล่าวรวมแตะ 4,526 คดี เพิ่มขึ้น 7.2% จาก 4,223 คดีในปี 2566 และเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับปี 2557 ซึ่งมีเพียง 2,291 คดี
อย่างไรก็ตาม อัตราการจับกุมผู้กระทำผิดในคดีลักษณะดังกล่าวอยู่ที่เพียง 21.8% ในปี 2567 ซึ่งต่ำกว่าคดีอาชญากรรมทางไซเบอร์ประเภทอื่นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น การหลอกลวงแบบฟิชชิง (phishing) และการฉ้อโกงออนไลน์ที่มีอัตราการจับกุมสูงถึง 52.1%
ปัจจุบัน บริษัทเอกชนจำเป็นต้องรายงานเหตุการณ์บุกรุกทางไซเบอร์ต่อสำนักงานความมั่นคงปลอดภัยและอินเทอร์เน็ตของเกาหลี (KISA) หรือกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ภายใน 24 ชั่วโมงหลังตรวจพบเหตุผิดปกติ
ทั้งนี้ ตามข้อมูลของกระทรวงฯ พบการรายงานเหตุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องในปี 2566 ซึ่งช่วยเพิ่มความเข้มงวดด้านการเปิดเผยและติดตามเหตุภัยคุกคามทางไซเบอร์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ธ.ค. 68)





