พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะโฆษกศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กล่าวว่า
พ.ต.หญิง กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก สรุปสถานการณ์สู้รบในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 บริเวณบ้านหนองจาน ขณะนี้ทหารไทยอยู่ระหว่างปฏิบัติการเพื่อเข้าควบคุมพื้นที่ ส่วนบ้านหนองหญ้าแก้ว-คลองแผง หลังทหารไทยควบคุมพื้นที่แล้ว อยู่ระหว่างสถาปนาความมั่นคง ซึ่งฝ่ายกัมพูชายังระดมกำลังยิงมาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ยังคงมีการปะทะ ตั้งแต่พื้นที่ภูมะเขือ-ห้วยตามาเรีย ซึ่งกัมพูชายังใช้อาวุธโจมตีต่อกำลังทหารไทย ซึ่งไทยได้ตอบโต้ตามสถานการณ์ และควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
ส่วนพื้นที่ปราสาทตาควายจากเหตุการณ์เหยียบทุ่นระเบิดล่าสุดวานนี้ (รายที่ 9) พบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 ในพื้นที่อีก 4 ทุ่น เป็นหลักฐานสำคัญของการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา และเป็นเจตนาชัดเจนของกัมพูชามุ่งทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารไทย
นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศขอแถลงการณ์ประณามกัมพูชา หลังเกิดเหตุทหารไทยได้รับบาดเจ็บสาหัสขาขาดเป็นรายที่ 9 เนื่องจากเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 เมื่อวานนี้ (25 ธ.ค.) ขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังเจรจาลดความตึงเครียด การหยุดยิง และสร้างสันติภาพ เหตุดังกล่าวส่งผลกระทบต่อประชาชนของทั้งสองประเทศที่จะได้รับผลกระทบอีกยาวนาน โดยขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจ แสดงความผิดชอบในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดร่วมกันภายใต้กรอบความร่วมมือ GBC
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะรวบรวมข้อมูลเพื่อยื่นประท้วงต่อกัมพูชา พร้อมทั้งส่งข้อมูลหลักฐานดังกล่าวไปยังประธานรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา และเลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุยังพบทุ่นระเบิดอีก 4 จุด
สิ่งที่เราต้องการเห็นคือความจริงใจของฝ่ายกัมพูชา หลังกัมพูชาพยายามเคลื่อนไหวเรื่องนี้ผ่านรัฐบาลสหรัฐฯ แทนที่จะไปหารือในการประชุม GBC ซึ่งสะท้อนให้ประชาคมโลกเห็นชัดเจนว่ากัมพูชามีพฤติกรรมเป็นอย่างไร
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ธ.ค. 68)
