ไทย-กัมพูชา: ทอ.จับตาเครื่องบินเบลารุส พร้อมตอบโต้หากผิดปกติ-ยังไม่พบเขมรละเมิดข้อตกลงหลังผ่าน 26 ชม.

นาวาอากาศโท ณัฐนัย จันทร์เปล่ง ผู้ช่วยโฆษกกองทัพอากาศ กล่าวในการแถลงข่าวของศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาถึงกรณีที่มีเครื่องบินลำเลียงจากเบลารุส เดินทางไปยังกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชาว่า กองทัพอากาศได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยมีมาตรการดำเนินการ 2 ส่วนหลักคือ การติดตามความเคลื่อนไหวของเที่ยวบินนี้อย่างใกล้ชิด รวมถึงเหตุการณ์อื่น ๆ ที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ

ขณะที่กองทัพอากาศเตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าพร้อมจะตอบโต้ทุกสถานการณ์ที่ผิดปกติ

นอกจากนี้ ฝ่ายไทยระบุว่ามีข้อมูลทางการข่าวกรองที่ละเอียด ทั้งจุดเริ่มต้น เส้นทางบิน สมรรถนะการบรรทุก และพิสัยการบินของเครื่องบินลำดังกล่าว

ด้านพล.อ.อ.ประภาส สอนใจดี ผู้อำนวยการศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กล่าวว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า จากการข่าวในขณะนี้ยังไม่มีภัยคุกคามใด ๆ เกิดขึ้น จึงขอให้อย่าลือและวิตกกังวลกันไปก่อน เนื่องจากขณะนี้บรรยากาศกำลังเข้าสู่ช่วงการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และนำไปสู่สันติสุขที่ยั่งยืนของประชาชนทั้งสองประเทศ

พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่มีการลงนามในถ้อยแถลงการณ์ร่วม (Joint Statement) และตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 72 ชั่วโมงเพื่อดูท่าทีของแต่ละฝ่าย ขณะนี้ผ่านไปแล้ว 26 ชั่วโมง โดยฝ่ายไทยปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัดและยังไม่พบการละเมิดข้อตกลง

ทั้งนี้ จากกระแสข่าวในโซเชียลมีเดียที่ตั้งข้อสังเกตถึงข้อที่ 4. ของแถลงการณ์ร่วม ที่อนุญาตให้ประชาชนทั้งสองฝ่าย สามารถเดินทางกลับบ้านเรือนได้นั้น และประชาชนฝ่ายกัมพูชาที่เคยอาศัยในพื้นที่บ้านหนองจาน ต้องการเดินทางกลับเข้ามาในพื้นที่ที่ไทยควบคุมนั้นไม่สามารถทำได้ เนื่องจากแถลงการณ์ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า การเดินทางกลับเข้าที่พักอาศัยของประชาชนทั้งสองฝ่าย จะต้องอยู่ในพื้นที่ปัจจุบันของแต่ละประเทศ ซึ่งจะเชื่อมโยงกับข้อ 2. ของแถลงการณ์ ว่าพื้นที่ปัจจุบัน คือพื้นที่ที่ทหารวางกำลังไว้ ดังนั้น ในพื้นที่ที่ฝ่ายไทยได้ควบคุมไว้แล้วก็ถือว่าเป็นเขตแดนของไทย ชาวกัมพูชาจึงไม่สามารถเดินทางกลับเข้ามายังพื้นที่ดังกล่าวได้อีก

สำหรับการปล่อยตัวเชลยศึกทั้ง 18 นายนั้นการดำเนินการเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรม เพื่อแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา กองทัพบกยืนยันว่าได้ดูแลทหารกัมพูชาทั้ง 18 นายอย่างดี ให้เกียรติและศักดิ์ศรีตามหลักสากล โดยจะมีกระบวนการบันทึกภาพและสัมภาษณ์ก่อนส่งตัวกลับ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ธ.ค. 68)