“ทรัมป์” จี้ “ฮามาส” วางอาวุธ ตามเงื่อนไขหยุดยิงกาซา

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ (ภาพ: thaigov.go.th)

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันจันทร์ (29 ธ.ค.) ว่า กลุ่มฮามาสจะมีเวลาจำกัดในการวางอาวุธตามข้อตกลงหยุดยิงในกาซา พร้อมเตือนว่าหากไม่ปฏิบัติตามจะต้องเผชิญกับมาตรการตอบโต้ขั้นรุนแรง

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ณ รีสอร์ตมาร์-อา-ลาโก รัฐฟลอริดา

“พวกเขาต้องชดใช้อย่างสาสม” ทรัมป์กล่าวเตือนหากฮามาสละเมิดเงื่อนไขสำคัญที่ตกลงกันไว้ พร้อมเสริมว่าตนได้มอบหมายให้ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษ และจาเร็ด คุชเนอร์ บุตรเขย เป็นผู้กำกับดูแลกระบวนการวางอาวุธของกลุ่มฮามาส

ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันว่า เขา “ไม่มีความกังวล” ต่อการปฏิบัติการของอิสราเอลในช่วงหยุดยิง หรือความล่าช้าในการเข้าสู่ระยะที่สองของแผนสันติภาพ โดยย้ำว่าอิสราเอลได้ “ปฏิบัติตามแผนอย่างครบถ้วน 100 เปอร์เซ็นต์”

ก่อนการหารือกับเนทันยาฮู ทรัมป์ระบุว่าจะเร่งผลักดันให้แผนสันติภาพระยะที่สองเริ่มขึ้น “โดยเร็วที่สุด” อย่างไรก็ตาม ทรัมป์เน้นย้ำว่า การปลดอาวุธกลุ่มฮามาสคือเงื่อนไขหลัก

อย่างไรก็ดี ทรัมป์ยอมรับว่า เขากับผู้นำอิสราเอลยังมีมุมมองที่แตกต่างกันในเรื่องการจัดการปัญหาความรุนแรงจากกลุ่มชาวยิวผู้ตั้งถิ่นฐานในเขตเวสต์แบงก์

“ผมคงไม่บอกว่า เราเห็นตรงกันเรื่องเวสต์แบงก์ทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เราจะได้ข้อสรุปในเรื่องนี้ร่วมกันแน่นอน” ทรัมป์กล่าว

เมื่อเดือนก.ย. ที่ผ่านมา ทรัมป์เคยประกาศจุดยืนว่า จะไม่อนุญาตให้อิสราเอลผนวกดินแดนเวสต์แบงก์ ท่ามกลางคำเตือนจากชาติตะวันตกและกลุ่มประเทศอาหรับว่า การผนวกดินแดนดังกล่าวจะเป็นการทำลายความหวังในการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์โดยสิ้นเชิง

ด้านเนทันยาฮูระบุว่า ความร่วมมือระหว่างอิสราเอลกับสหรัฐฯ นับตั้งแต่ทรัมป์กลับมารับตำแหน่งเมื่อเดือนม.ค. นั้น “ไม่เป็นสองรองใคร” พร้อมนิยามการหารือครั้งนี้ว่า “ให้ผลดีมาก ๆ”

ก่อนหน้านี้เมื่อวันอาทิตย์ (28 ธ.ค.) เนทันยาฮูยังได้แยกหารือกับ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ณ มาร์-อา-ลาโก ด้วยเช่นกัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ธ.ค. 68)